CPWเล็งสินค้าเทคโนคึกคัก กระแสเอไอดันยอดขายโต

#CPW #ทันหุ้น – CPW ส่องทิศทางครึ่งปีหลัง 2567 ดีกว่าปีก่อน คาดเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยหนุนยอดขาย อีกทั้งแนวโน้มความต้องการซื้อ สินค้าเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ทั้งปี 2567 เติบโตกว่าปีก่อน และได้รับอานิสงส์บวกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลวอลเล็ตเข้าเสริมช่วงท้ายปีอีกด้วย

นายปรเมศร์  เหรียญเจริญสุข  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าจะทำได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก 2567 โดยได้รับอานิสงส์ของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเข้าสู่ระบบ AI ที่ปัจจุบันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในหลากหลายองค์กรธุรกิจ ทำให้ผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการต้องอัพเดตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองทั้ง  มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต เพื่อให้ทันต่อโลกในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วงผลักดันการเติบโตให้แก่บริษัทได้เป็นอย่างดี

*ขยายช่องทางขายทำเงิน

ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังได้เริ่มแผนขยายช่องทางการจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรธุรกิจซึ่งเป็นระดับบิ๊กเนมชั้นนำเพื่อจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น ประกอบกับได้หาสินค้าแบรนด์ไลฟ์สไตล์ รวมถึง IoT เข้ามาเสริมพอร์ตและตอบโจทย์ความต้องการหรือเทรนด์ผู้บริโภคมากขึ้น

และยังมีปัจจัยจากนโยบายภาครัฐที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ “เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” โดยรอการพิจารณารายละเอียดของสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ และจะเริ่มต้นโครงการโดยการโอนเงินให้ประชาชนใช้จ่ายได้ทันไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งก็ช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยในประเทศได้ดีขึ้น และเชื่อว่าเป็นผลดีต่อบริษัทอย่างแน่นอน

แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกยังมีปัจจัยลบของภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้กำลังซื้อปัจจุบันของผู้บริโภคลดลงไปบ้าง และเนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำสินค้าเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ที่ปัจจุบันความต้องการสินค้าไม่ได้ลดลง เนื่องจากสินค้ามีความตอบโจทย์ผู้บริโภคใจ และร้านค้าของบริษัทยังอยู่ในพื้นที่ กลางเมืองที่มีศักยภาพตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งการค้า และมหาวิทยาลัย เป็นต้น

*ส่องโค้งท้ายผลงานพีค

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/2566 บริษัทคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เพราะเป็นไฮซีซันของธุรกิจสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟน เพราะจะทยอยมีสินค้าใหม่เปิดตัววางจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าเรือธงอย่าง “ไอโฟน (iPhone)” และสินค้ายี่ห้ออื่นที่ทยอยเปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปี อาทิ Samsung, Xiaomi, Nothing เป็นต้น รวมถึงสินค้ากลุ่ม Gadget & Accessory และ Digital Lifestyleที่จะทยอยออกมาเพิ่มมากขึ้น

สำหรับไอโฟน (iPhone) บริษัทได้ขึ้นเป็นประเทศ Tier-1 ของการจำหน่ายมือถือไอโฟนแล้วอย่างเป็นทางการทำให้ขายสินค้าได้เร็วขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 จากเดิมที่จะเริ่มขายได้ในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตามสำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของปี 2567 บริษัทยังมั่นใจรายได้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทไม่ได้มีการขยายสาขาเพิ่มจาก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจำนวน 105 สาขา (เทียบกับปี 2566 มี 104 สาขา) ประกอบด้วย ร้าน dotlife (ดอทไลฟ์) จำนวน 23 สาขา, ร้าน Apple Brand Shop จำนวน 28 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 18 สาขา U.Store by copperwired จำนวน 9 สาขา และ Ai_ จำนวน 1 สาขา), ศูนย์บริการ iServe จำนวน 3 สาขา, ร้าน AIS จำนวน 26 สาขา, Samsung จำนวน 20 สาขา และ ร้าน Xiaomi จำนวน 5 สาขา