รีเซต

บล.กสิกรฯห่วงความเสี่ยง NPL ลดเป้า AEONTS เหลือ 177 บ.

บล.กสิกรฯห่วงความเสี่ยง NPL ลดเป้า AEONTS เหลือ 177 บ.
ทันหุ้น
8 กันยายน 2566 ( 13:18 )
1

บล.กสิกรไทย วิเคราะห์หุ้นของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS  ระบุว่า “ความท้าทายรออยู่” คาดกำไรไตรมาส 2QFY67 จะฟื้นตัวเล็กน้อยที่ 712 ลบ. (+15% QoQ และ -21% YoY) บล.กสิกรไทยลดสมมติฐานกำไรปี FY2067-69 ลง 32%/19%/6%

 

บล.กสิกรไทยคาดว่าจะมีความเสี่ยงจากการก่อ NPL ใหม่อีกครั้งในปีหน้าจากยอดชำระขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น AEONTS ได้ตั้ง management overlay สำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแล้วคาดผลกระทบที่จำกัดจากมาตรการของ ธปท.ในการจัดการกับลูกหนี้เรื้อรัง บล.กสิกรไทยลดคำแนะนำเป็น "ถือ"และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 177 บาท จาก 217 บาท

Investment Highlights

คาดจะฟื้นตัวเล็กน้อยในไตรมาส 2QFY67 บล.กสิกรไทยคาดว่า AEONTS จะรายงานกำไรไตรมาส 2QFY67 (เดือน มิ.ย. -ส.ค.2566) ที่ 712 ลบ. เพิ่มขึ้น 15% Q0Q แต่ลดลง 21% YOY โดยกำไรที่เติบโตเชิง Q00 คาดว่าจะมาจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่ลดลง และประมาณการกำไรจากการขายหนี้เสีย (NPL) ที่ 100 ลบ.ในไตรมาส 2QFY67 การเก็บหนี้ดีขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. แต่เริ่มอ่อนตัวลงอีกครั้งในเดือน ส.ค. และเราคาดว่า credit cost จะยังคงสูงที่ 870bps ในไตรมาส 20FY67เทียบกับ 892bps ในไตรมาส 1QFY67 และ 793bps ในไตรมาส 20FY66ขณะที่กำไรที่ลดลงเชิง YY คาดว่าจะเกิดจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลงตามต้นทุนดอกเบี้ย และ credit cost ที่สูงขึ้น

 

ลดประมาณการกำไรปี FY2567-69จากการที่ประมาณการกำไรในครึ่งแรกของปี FY2567 ของเรา คิดเป็นเพียง 31% ของประมาณการกำไรปี FY2567 ที่ 4.26 พันลบ. บล.กสิกรไทยจึงปรับประมาณการกำไรปี FY2567-69 ลง 32%/ 19%/6% เป็น 2.9 พันลบ./ 3.7 พันลบ. /4.6 พันลบ. สมมติฐานสำคัญสำหรับการปรับลดประมาณการกำไร ได้แก่ 1) ประมาณการ credit cost ที่สูงขึ้น 96bps และ 40bps ในปี FY2567-68 สะท้อนถึงวัฎจักร NPL ที่นานกว่าคาด 2) สมมติฐาน NIM ที่ลดลง 65bps/42bps/24bps สะท้อนต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในปี FY2567-68 และ 3) สมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อปี FY2567 ที่ลดลงเป็น 3.9% จาก 7.2% บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรปี FY2567 จะลดลง 24 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น 29% ในปี FY2568

 

ยอดจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำสูงขึ้นในปี 2567 -68 บล.กสิกรไทยคาดว่าจะเห็นความเสี่ยงจาก credit cost ในปี 2567-68 เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเพิ่มการชำระเงินขั้นต่ำของบัตรเครดิตเป็น 8% และ 10% จาก 5% ในปี 2566 บล.กสิกรไทยคาดว่าผู้กู้บางรายอาจต้องเผชิญกับปัญหาในการชำระหนี้ที่สูงขึ้น ขณะที่ผลกระทบจากการก่อ NPL คือ ยังไม่สามารถคำนวนได้ โดย ณ ปัจจุบัน AEONTS มีการชำระคืนสินเชื่อบัตรเครดิตในอัตราขั้นต่ำรวม 50% ของหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด และได้ตั้งเงินสำรองส่วนเกิน (management overlay) ไว้ที่ 200 ลบ. สำหรับผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการชำระยอดบัตรเครดิตขั้นต่ำเพิ่มขึ้นในปี 2567-68 ผู้บริหารเชื่อว่า management overlay ในปัจจุบันเพียงพอแล้ว และไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่มเติมในปีหน้า

 

คาดจะสามารถจัดการผลกระทบจากแผนลดหนี้เรื้อรังของ ธปท. ได้ บล.กสิกรไทยคาดว่า AEONTS จะได้รับผลกระทบที่จำกัดจากแผนในการลดหนี้เรื้อรัง (PD) ของ ธปท. โดยการเปลี่ยนลูกค้ากลุ่ม PD มาเป็นโครงการปรับโคงสร้างหนี้ ซึ่งลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 15%เนื่องจาก AEONTS มีสินเชื่อเพียง 5%ของสินเชื่อทั้งหมดที่ถูกจัดเป็นลูกค้ากลุ่ม PD ตามคำจำกัดความของ ธปท. นอกจากนี้ AEONTS ยังมีแผนที่จะช่วยเหลือลูกค้ากลุ่ม PD อยู่แล้วโดยให้ลูกค้าสามารถอาสาเปลี่ยนสินเชื่อเป็นสินเชื่อระยะยาว และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 14%เท่านั้น

 

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยลดคำแนะนำสำหรับ AEONTS จาก "ซื้อ" เป็น "ถือ" เนื่องจากลดราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ลง 18% เป็น 177 บาท จาก 217 บาท ส่งผลให้มี upside จากราคาหุ้นปัจจุบันที่จำกัด บล.กสิกรไทยลดเป้า PBV เป็น 1.6 เท่า จาก 1.9 เท่า เพื่อสะท้อน ROE ระยะยาวที่ลดลงเป็น 15.5% จาก 18% โดย ณ ปัจจุบัน หุ้น AEONTS ซื้อขายด้วย PER ปี FY2567-68 ที่ 14 เท่า และ 11 เท่า หรือเท่ากับ +2SD สอดคล้องกับค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลังตามลำดับ ขณะเดียวกัน หุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PBV ปี FY2567-68 ที่ 1.7 เท่า และ 1.5 เท่า หรือประมาณ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ในอดีต

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง