คนอเมริกันกลัวภาษีทรัมป์ เร่งซื้อรถญี่ปุ่น ดันยอดขายพุ่ง 11 % ท่ามกลางดีลสหรัฐ-ญี่ปุ่นที่ยังไม่บรรลุผล

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, ฮอนด้า มอเตอร์ โค, ซูบารุ คอร์ป และ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายรถในสหรัฐอเมริการวมกัน 464,372 คันในเดือนเมษายน 2568 เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดขายรถโตโยต้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10.0% สู่ระดับ 233,045 คัน ในเดือนเมษายน 2568
ฮอนด้ายอดขายทะยาน 18.1% พุ่งไปที่ 137,656 คัน
ซูบารุยอดขายขยับขึ้น 0.3% อยู่ที่ 56,011 คัน
มาสด้ายอดขายพุ่ง 21.0% อยู่ที่ 37,660 คัน
ยอดขายรถญี่ปุ่นในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บริโภคเร่งซื้อรถก่อนที่ราคาจะสูงขึ้น โดยเฉพาะรถไฮบริดและรถเอสยูวี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์ทุกคันที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 อย่างไรก็ตาม การเร่งซื้อรถยนต์ในตอนนี้จะทำให้ความต้องการรถยนต์ลดลงในอนาคต
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รถยนต์มาสด้าส่วนใหญ่ที่ขายในสหรัฐฯ นั้นนำเข้ามาจากญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ขณะที่ซูบารุมีสัดส่วน 50% โตโยต้าราว 20% และฮอนด้าเพียง 1% โดยโตโยต้าและฮอนด้าในสหรัฐฯ นำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศอื่นนอกเหนือจากญี่ปุ่นด้วย
ดีลสหรัฐ-ญี่ปุ่น ยังไม่บรรลุ ผู้นำญี่ปุ่นย้ำไม่ยอมแลกผลประโยชน์ชาติ
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ (2 พฤษภาคม 2568 ) ว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมแลกผลประโยชน์ของชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งการบรรลุข้อตกลงภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ หลังจากการเจรจาระดับรัฐมนตรีรอบล่าสุดเพิ่งเสร็จสิ้นลง
อิชิบะกล่าวว่า การเจรจาเป็นไปในเชิงบวกและสร้างสรรค์มาก แต่ยังคงมีช่องว่างระหว่างทั้งสองประเทศ โดยบอกกับนักข่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องใช้ “ความพยายามสูงสุด” เพื่อบรรลุข้อตกลง
ในระหว่างการตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับโอกาสในการทำข้อตกลงทวิภาคี นายกฯ ญี่ปุ่นกล่าวว่า “ยิ่งเร็ว ยิ่งดี” แต่ขณะเดียวกันก็เสริมด้วยว่า “อย่างไรก็ตาม เราควรหลีกเลี่ยงการทำลายผลประโยชน์ของชาติ ด้วยการแลกสาระสำคัญกับความรวดเร็ว” ในการทำข้อตกลง
อิชิบะกล่าวว่า พวกเขามีประเด็นที่ต้องการชี้ให้เห็น และเราก็มีของเราเช่นกัน เรายังไปไม่ถึงจุดที่เราสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นนำโดยเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจา ได้ประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (1 พฤษาคม 2568 ) ตามเวลาสหรัฐฯ โดยในระหว่างการประชุมเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง อากาซาวะได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ทบทวนนโยบายภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ และแม้จะยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในสาระสำคัญ แต่รัฐมนตรีทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะจัดการเจรจารอบใหม่ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้ญี่ปุ่นนับเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่สหรัฐฯ เริ่มต้นเจรจาภาษีนำเข้า ซึ่งทรัมป์ประกาศใช้เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ
ทั้งอิชิบะและอากาซาวะต่างก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ แต่อากาซาวะกล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนไม่ถูกรวมอยู่ในหัวข้อการเจรจารอบล่าสุด