รีเซต

ตำรวจพัทลุง วิสามัญ ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ป่วยโควิด หนีออกจากโรงพยาบาล

ตำรวจพัทลุง วิสามัญ ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ป่วยโควิด หนีออกจากโรงพยาบาล
มติชน
2 สิงหาคม 2564 ( 23:45 )
67

เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 2 สิงหาคม 2564 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภจว พัทลุง พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน สภ ตะโหมด เข้าตรวจสอบบริเวณ ถนนธงชัย ซอย 1 หมู่ 1 ตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง หลังรับรายงานเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ นายประพัฒน์ หนูปาน อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ ซึ่งทาง เรือนจำพัทลุงได้ส่งตัวเข้ารับการรักษา ที่ รพ. พัทลุง

 

 

หลังตรวจพบเชื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอนอายัดตัวมาจาก จังหวัดปัตตานีตามหมายจับศาลพัทลุงในข้อหาชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เมื่อตอนสายวันนี้ ได้ แอบหนีออกจากตึกผู้ป่วย ภายใน รพ.ก่อนจะมาขโมยรถ จยย . ฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน ขกน 647 พัทลุง ของชาวบ้านขับหลบหนีไป

 

 

 

โดยในที่เกิดเหตุ บนถนนคอนกรีตในซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบศพนายประพัฒน์ หนูปาน ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ป่วยโควิด นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนในสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 1 นัด เข้าที่บริเวณซอกคอ ด้านซ้าย ใกล้ศพ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ อีซูซุ ตอนครึ่ง สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ฒท 5400 กทม.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กองสืบ ภจว พัทลุง จอดอยู่ในสภาพขวางถนนไม่ไกลจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่พบ รถ จยย. ไม่ปิดแผ่นล้มอยู่ ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่นายประพัฒน์ ขโมยมา

 

 

สภาพศพนายประพัฒน์ ฯ นอนหงาย สวมหน้ากากอนามัย ส่วนอาวุธปืนขนาด 9 มม ตกอยู่ที่บริเวณข้อศอกด้านขวา ในสภาพขึ้นลำพร้อมใช้งาน ใกล้กันพบหมวกกันน๊อค ของผู้ตายตกอยู่ 1 ใบ

 

 

พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภจว พัทลุง ซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระบุว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาป่วยโควิด หลบหนีออกจาก รพ. พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกองกำกับการสืบสวน ภจว.พัทลุง ได้กระจายกำลังกันออกติดตามและสืบสวนหาข่าว จนทราบว่า นายประพัฒน์ ได้หลบเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ ตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงกลับไม่เจอตัวนายประพัฒน์ เจ้าหน้าที่จึงถอดกำลังกลับ แต่ขณะที่กำลังเดินทางออกจากที่เกิดเหตุ กำลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นายประพัฒน์ ได้ขี่รถ จยย. กลับเข้าไปในพื้นที่ จุดเกิดเหตุอีกครั้ง

 

 

ทำให้ ด.ต.อดุลย์ ณ มณี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ บางแก้ว ช่วยราชการ กองสืบซึ่งอยู่ใกล้ ที่เกิดเหตุมากที่สุด จึงขับรถยนต์เข้าไปที่จุดเกิดเหตุพร้อมเรียกให้ผู้ต้องหาหยุดรถ ผู้ต้องหาจึงหยุดรถพร้อมทิ้งรถ จยย. ให้ล้มลง และวิ่งเข้าหา ดต.อดุลย์ จนมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน นายประพัฒน์ ผู้ต้องหาได้ แย่งปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป และจะยิง ด.ต.อดุลย์

 

 

แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด กองสืบ จำนวน 3 นาย เข้ามาสมทบที่เกิดเหตุ พร้อมตะโกนบอกให้นายประพัฒน์ ทิ้งอาวุธปืน และมอบตัว แต่ นายประพัฒน์ กลับขึ้นลำอาวุธปืน พร้อมจะยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงยิงสวนไป ทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิตดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง