รีเซต

ชัชชาติ เปิดแผนรับน้ำหนุน สร้างเขื่อน 88 กม. รับฟันหลอ 20 จุด ทรงวาด-ตลาดน้อยยังมีปัญหา

ชัชชาติ เปิดแผนรับน้ำหนุน สร้างเขื่อน 88 กม. รับฟันหลอ 20 จุด ทรงวาด-ตลาดน้อยยังมีปัญหา
มติชน
27 กรกฎาคม 2565 ( 12:48 )
88
ชัชชาติ เปิดแผนรับน้ำหนุน สร้างเขื่อน 88 กม. รับฟันหลอ 20 จุด ทรงวาด-ตลาดน้อยยังมีปัญหา

ข่าววันนี้ 27 กรกฎาคม ที่อาคารรัฐสภา เขตดุสิต นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงปลายเดือนนกรกฎาคมจนถึงต้นเดือนสิงหาคม ว่า จะมีการสร้างเขื่อนริมน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 88 กิโลเมตร กทม.ดำเนินการ 80 กิโลเมตร เอกชนดำเนินการ 8 กิโลเมตร มีจุดที่เป็นฟันหลอประมาณ 20 กว่าจุด ซึ่งปีนี้ได้งบประมาณดำเนินการ 13 จุด ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้เตรียมกระสอบทรายไว้อุดจุดที่ฟันหลอแล้ว พร้อมยอมรับว่ามีบางจุดที่ยังมีปัญหา เช่น จุดทรงวาด ตลาดน้อยเลยวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร และจุดฟันหลอทั้งสองฝั่งทั้งฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร รวมถึงที่ของเอกชนที่ยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการในการเตรียมความพร้อมก็ต้องเร่งดำเนินการ โดยได้สั่งการไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

 

“เมื่อช่วงเช้าอธิบดีกรมชลประทานได้มีการรายงานสถานการณ์ประจำวันว่ามีปริมาณ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ปกติไม่มีปัญหา และได้สั่งการเน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดฟันหลอแล้ว เพราะทุกจุดที่ฟันหลอถึงแม้สถานการณ์น้ำน้อยก็สามารถเอ่อท่วมได้ ซึ่งฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครต้องเร่งดำเนินการ


โดยปริมาณน้ำเหนือที่หนุน ที่เป็นวิกฤตจริง ๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่จะทำให้น้ำล้นถึงแนวคัน ซึ่งกทม.ได้เสริมคันกันน้ำให้สูงขึ้นโดยมีความสูงเฉลี่ย 2.80 – 3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือแล้ว” นายชัชชาติกล่าว

 

นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับข้อห่วงใยประชาชนในช่วงวันหยุดยาวนั้น ก็ขอให้หยุดพักผ่อนกันให้เต็มที่ ส่วนเรื่องฝนกทม.ก็ป้องกันเต็มความสามารถ การพร่องน้ำก็ทำเต็มที่ ตอนนี้ก็ได้กองทัพเข้ามาช่วยในการลอกท่อแล้วตั้งแต่พื้นที่คลองลาดพร้าวไปจนถึงคลองบางบัว โดยจะพร่องน้ำช่วงกลางคืน และตอนเช้าก็ปล่อยให้เดินเรือ แต่แค่หยุดปั๊มน้ำระดับน้ำก็ขึ้นมา 20 เซนติเมตรแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงที่เรือไม่เดินก็จะพร่องน้ำได้มากที่สุด คิดว่าหากฝนตกหนักไม่มากแบบที่ผ่านมาก็ไม่น่ามีปัญหาสามารถรับมือได้

 

นายชัชชาติกล่าวว่า ในส่วนของเรื่องฝีดาษลิง ตรวจสอบแล้วไม่พบอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯตามที่ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไป ซึ่งขณะนี้กทม.ได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่เพราะขณะนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศต่างๆ เช่น อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 100 ราย เพราะฉะนั้นชุมชนที่มีความเสี่ยงต้องมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งโรคฝีดาษลิงไม่ได้มีการติดเชื้อจากการแพร่กระจายในอากาศเหมือนโควิด -19 แต่มีการติดเชื้อจากการสัมผัสและเรื่องเพศสัมพันธ์โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งขณะนี้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ให้ความรู้กับศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไว้พร้อมแล้ว

 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วโดยมีการตั้งประชาคมเขตแทน แต่จากการประชุมสภากรุงเทพมหานครพบว่าส.ก.ต้องการให้มีส.ข. เนื่องจากส. ข. เป็นผู้ที่จะดูในรายละเอียดของแต่ละพื้นที่เขตของกรุงเทพฯ เพราะว่าในแต่ละเขตของกรุงเทพฯมีจำนวนประชากรมากเป็นหลัก2-3แสนคนเทียบเท่ากับ 1 จังหวัด การมีส.ก.แค่คนเดียวอาจจะไม่เพียงพอทำให้การดูแลไม่ทั่วถึง

 

“ส่วนแนวคิดเรื่องการตั้งประชาคมเขตที่มาจากคนบางกลุ่มไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องพิจารณาความเห็นของแต่ละฝ่ายให้รอบด้าน ผู้บริหารกทม.มีหน้าที่นำเสนอ สื่อสารความเห็นจากสภากทม.ให้คณะกรรมาธิการฯได้รับทราบ ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะถ้ามีการเลือกผู้แทนจากประชาชนมามากๆ และเป็นตัวแทนจากประชาชนจริงๆและสร้างประโยชน์ให้ประชาชนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากเป็นการแต่งตั้งจากคนแค่เพียงบางกลุ่มไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนก็อาจจะสร้างปัญหาในอนาคตได้ ซึ่งในเรื่องนี้ขณะนี้กทม.ยังไม่สามารถดำเนินการได้ต้องรอการประกาศใช้จากพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องก่อน” นายชัชชาติกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง