Google อาจกำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มใช้ AI แทนการ “เสิร์ช” ค้นหาข้อมูล ?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของ “Google” กลายเป็นคำกริยาแทนการค้นหาข้อมูล เช่น “ค้นข้อมูลในกูเกิล” กลายเป็นวลีติดปากของผู้ใช้ทั่วโลก แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้งานของผู้คน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และนั่นอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติที่บริการ "เสิร์ช" ค้นหาข้อมูลของ Google ไม่เคยเผชิญมาก่อน
คนรุ่นใหม่ไม่อยาก “เสิร์ช” ค้นข้อมูลอีกต่อไป
ผลสำรวจของ Search Engine Land ในช่วงต้นปี 2025 พบว่าผู้ใช้ 61% ของผู้ใช้ Gen Z และ 53% ของกลุ่ม Millennials หรือ Gen Y คนรุ่นใหม่เริ่มเบื่อกับการต้อง “พิมพ์คำค้นหา” แล้วไล่อ่านลิงก์มากมายเพื่อหาคำตอบที่ตรงใจ พวกเขาเริ่มหันไปใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่าง ChatGPT, Claude หรือ Perplexity ที่สามารถให้คำตอบสั้น กระชับ และเข้าใจง่ายในทันทีโดยไม่ต้องคลิกออกไปยังเว็บไซต์อื่น
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และ Reddit ก็กลายเป็นแหล่งค้นหาทางเลือก โดยเฉพาะในหมวดหมู่ “รีวิวสินค้า-สถานที่-อาหาร” ที่ข้อมูลมีลักษณะเป็นภาพหรือวิดีโอสั้น ดูเข้าใจง่ายและเป็นกันเองมากกว่า
ส่วนแบ่งตลาด Google Search ลดต่ำกว่า 90% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ปัจจุบันแม้ว่า กูเกิล (Google) ยังคงเป็นเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของโลก แต่สัญญาณเตือนเริ่มดังขึ้น เมื่อข้อมูลล่าสุดในปี 2024 ระบุว่าส่วนแบ่งการตลาดของ Google Search ลดลงเหลือ 89.73% หรือต่ำกว่า 90% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ สะท้อนว่าคู่แข่งเริ่มเข้ามาแย่งพื้นที่ได้จริง ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว โดยมีบริการค้นข้อมูลอื่น ๆ ตามมาในสัดส่วนที่น้อย เช่น Bing 3.97%, Yandex 2.56% และ Yahoo! 1.29%
อะไรก็ตามที่กระทบต่อบริการ Google Search มันจะกระทบต่อบริษัทอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากข้อมูลในปี 2024 พบว่าโครงสร้างรายได้ของบริษัท อัลฟาเบต (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ยังคงแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพารายได้หลักจากบริการค้นหา โดย Google Search และบริการที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 56.6% ของรายได้ทั้งหมด
ล่าสุด เอ็ดดี้ คิว (Eddy Cue) รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจบริการของแอปเปิล (Apple) เองยังออกมายอมรับว่า ปริมาณการค้นหาผ่านเว็บเบราว์เซอร์ Safari บน iPhone เริ่มลดลง และมีการพิจารณาเพิ่มตัวเลือก “การค้นหาด้วย AI” แทน Google ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นการกระทบโดยตรงกับรายได้โฆษณาที่เป็นหัวใจของ Google
พฤติกรรมผู้ใช้งานกำลังเปลี่ยนไป
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การแข่งขันของเทคโนโลยี แต่คือ “การเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์” ในระดับโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหลายทศวรรษ เมื่อการ “ค้นหา” แบบเดิมถูกแทนที่ด้วย “การได้รับคำตอบทันที” ผ่านปัญญาประดิษฐ์ AI และแพลตฟอร์มใหม่ ๆ
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานต้องการค้นหาบทสรุปงานวิจัยที่เข้าใจได้ยากพร้อมแหล่งอ้างอิง ก็สามารถได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที เทียบกับการค้นข้อมูลรูปแบบเดิมที่ต้องใช้เวลาในการค้นหาและสรุปเป็นชั่วโมง
คำถามคือ Google จะสามารถปรับตัวได้เร็วพอหรือไม่ ?
เรื่องนี้ทาง Google เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ บริษัทได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ Gemini AI และผสานพลังของปัญญาประดิษฐ์ AI เข้าในหลายบริการของ Google เช่น Gmail รวมถึงบริการค้นข้อมูล ด้วยการทดลองฟีเจอร์ Search Generative Experience (SGE) ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI สรุปคำตอบจากเว็บต่าง ๆ แสดงเป็นบล็อกบนหน้าค้นหา