รีเซต

'พุทธิพงษ์' ยันไม่จอดำสื่อ เผยจับตาทุกคน-ทุกสื่อ ผิดกฎหมายดำเนินคดีแน่นอน

'พุทธิพงษ์' ยันไม่จอดำสื่อ เผยจับตาทุกคน-ทุกสื่อ ผิดกฎหมายดำเนินคดีแน่นอน
มติชน
19 ตุลาคม 2563 ( 11:17 )
55
'พุทธิพงษ์' ยันไม่จอดำสื่อ เผยจับตาทุกคน-ทุกสื่อ ผิดกฎหมายดำเนินคดีแน่นอน

เวลา 09.35 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ต้องดำเนินการที่ใช้โซเชียลฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ว่า เราติดตามเฝ้าระวังในสถานการณ์ปกติถ้ามีการสื่อสารในออนไลน์และโซเชียลมีเดีย สิ่งใดที่เป็นปัญหาและผิดกฎหมาย เราจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย และขณะนี้ต้องปฏิบัติตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ที่มีข้อกำหนด เรื่องการเผยแพร่สื่อสารอะไรที่ผิดกฎหมายต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด

 

ตั้งแต่วันที่ 14 – 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ติดตามผู้ใช้แพลตฟอร์มทุกเครือข่าย ที่อาจจะเข้าข่ายความผิดมีกว่า 300,000 ยูอาร์แอล กระบวนการใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารหลักหลายรูปแบบ ซึ่งในเวลา 11.00 น ของวันเดียวกันนี้ ได้มอบหมายให้ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส และรองปลัดกระทรวงดีอีเอสแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ผิดกฎหมาย สามารถระบุยืนยันตัวตนได้แล้ว จึงขอเตือนประชาชน ให้ระวังใช้โซเชียลในช่วงเวลาที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะการยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความแตกแยก

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีคำสั่งของ ผบ.ตร. ประสานสำนักคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงดีอีเอส ในการปิดเว็บไซต์ข่าวและเว็บไซต์ที่แจ้งข่าวนัดหมายชุมนุม นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในการแจ้งความวันนี้จะมีสำนักข่าวที่เข้าข่ายความผิดรวมอยู่ด้วย ส่วนเรื่องของโทษจะถึงขั้นปิดหรือไม่ต้องดูเป็นขั้นตอน เพราะบางเพจมีคำสั่งศาลระบุว่า มีความผิดและประสานให้ปิด

 

ถ้าบางสื่อเป็นดิจิทัลจะหารือกับ กสทช. หากเป็นการรายงานผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดียในขั้นแรกจะตักเตือนและดำเนินคดี แล้ววันนี้มีประมาณ 1-3 ราย ที่จะดำเนินคดี ซึ่งเป็นเพจข่าวโดยใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กออกเป็นข่าว ในลักษณะสถานีข่าวโดยเก็บหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด ส่วนจะใช้กฎหมายฉบับใดดำเนินคดีก็ต้องดูเป็นรายไปว่า อันไหนเข้า พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ ผบ.ตร. ดำเนินการ ส่วนเรื่องใดที่เข้าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ ดีอีเอสจะดำเนินการเลย

 

“ยืนยันว่าเราระมัดระวังทำอย่างรอบคอบ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ส่วนคำสั่ง ผบ.ตร.ที่ให้ระงับการเผยแพร่ข่าวนั้นบางอันเป็นของจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าดำเนินคดีเหมือนกันทุกราย หากรายงานข่าวตามปกติก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้ให้ปิดจอดำ แต่ถ้าฝ่าฝืนก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน ซึ่งทางดีอีเอสติดตามทุกคนทั้งสื่อและประชาชน และดูหลักฐานประกอบ ถ้ายังไม่เข้ากรอบกฎหมายชัดเจนก็ยังไม่ดำเนินคดี ซึ่งเราติดตามทุกคนทั้งสื่อและประชาชนพร้อมดูหลักฐานประกอบ ถ้ายังไม่เข้ากรอบกฎหมายชัดเจนเราก็ยังไม่ดำเนินคดี” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมกำลังมองว่า รัฐบาลใช้กฎหมายไปปิดกั้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ระมัดระวังอยู่แล้ว การจะดำเนินคดีไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปทำทุกคน ถ้าไม่ได้เข้าข้อกฎหมายไม่เห็นชัดเจน เรื่องการใช้คำพูดการยุยงที่ชัดเจน เราระมัดระวังมากไม่ไปละเมิดสิทธิใครแน่นอน เราเตือนแล้วถ้าไม่เข้าข่ายความผิดจริงก็จะจับตาดูเฉยๆ

 

กล่าวกรณีที่นายชวนหลีกภัย ประธานรัฐสภา เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองเรียกประชุมเพื่อหาทางออกเปิดรัฐสภาวิสามัญ ว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีประธานวิปรัฐบาลเข้าร่วม ซึ่งจะต้องดูว่าข้อสรุปหารือเป็นอย่างไร จากนั้นจะกลับมาหารือว่าข้อเสนอแนะของแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร เชื่อว่าแต่ละพรรคคงจะนำไปพูดคุยกันว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ พรรค พปชร. ยังไม่ได้คุยเรื่องโครงการเปิดประชุมวิสามัญ ต้องรอผลการหารือในวันนี้ก่อน