ยูเอ็นเผยผู้ลี้ภัยยูเครนทะลุ 2.3 ล้าน อีก 1.9 กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศ

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนชาวยูเครนมากกว่า 2.3 ล้านคนที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยออกนอกประเทศ และประมาณ 1.9 ล้านคน ได้กลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศของตนเอง

สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นกล่าวว่า ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศยูเครนส่วนใหญ่กำลังเดินทางออกจากพื้นที่สู้รบมุ่งหน้าไปยังตะวันตกสู่เมืองลวิฟ ขณะที่สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนก็เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว

ดูจาร์ริกกล่าวว่า องค์กรให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกำลังเพิ่มเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ และเร่งทำงานเพื่อเคลื่อนย้ายข้าวของต่างๆ ไปมอบให้กับคลังสินค้าในจุดต่างๆ ทั้งในและนอกยูเครน โดยนับจนถึงขณะนี้ยูเอ็นและพันธมิตรสามารถให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในรูปแบบต่างๆ ให้ผู้คนในยูเครนได้ราว 500,000 คน ซึ่งรวมถึงการจัดหาอาหาร ที่พักพิง ผ้าห่ม และอุปกรณ์ทางการแพทย์

ขณะที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 85 ตันไปยังศูนย์แวะพักทางตอนกลางของยูเครน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์รับรองและพักพิงชั่วคราวให้กับผู้ที่หลบหนีการสู้รบไปทางตะวันออก

ด้านโครงการอาหารโลกของยูเอ็นมีแผนจะช่วยเหลือผู้คนมากถึง 3.1 ล้านคน โดยให้ความสำคัญไปที่การจัดหาอาหาร ขนมปัง และการปันส่วนอื่นๆ ให้กับเมืองและพื้นที่ซึ่งคาดว่าการสู้รบจะขยายตัวออกไป

นอกจากนี้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เตือนว่าตามปกติแล้วในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม เกษตรกรจะต้องเตรียมที่สำหรับปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และดอกทานตะวัน รวมถึงต้องเตรียมที่ดินสำหรับปลูกผักในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ โดยเอฟเอโอย้ำว่าต้องใช้พยายามทั้งหมดเพื่อปกป้องพื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ต่างๆ เอาไว้