รีเซต

อ่าวเปอร์เซียระอุ! อิหร่านประกาศปล่อยดาวเทียมทางการทหารสำเร็จ

อ่าวเปอร์เซียระอุ! อิหร่านประกาศปล่อยดาวเทียมทางการทหารสำเร็จ
มติชน
23 เมษายน 2563 ( 13:12 )
67

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า อิหร่านปล่อยดาวเทียมทางการทหารดวงแรกขึ้นสู่วงโคจร เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ออกมาขู่รอบใหม่ ท่ามกลางความตึงเครียดมากขึ้นในอ่าวเปอร์เซีย

 

ข่าวระบุว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (ไออาร์จีซี) ได้ออกมาเชิดชูการปล่อยดาวเทียมทางการทหารครั้งนี้ว่าถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ โดยนายฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการของไออาร์จีซี กล่าวว่า “วันนี้เรามองโลกมาจากท้องฟ้า และมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นมหาอำนาจของโลก”

 

โดยดาวเทียมที่ได้รับการปล่อยออกไปครั้งนี้ ถูกขนานนามว่า “นูร์” เป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่า “แสงไฟ” ซึ่งเว็บไซต์เซปาห์นิวส์ของของไออาร์จีซี รายงานว่า ดาวเทียมดังกล่าวถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยที่ทะเลทรายมาร์กาซี ที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ตอนกลางของอิหร่าน และว่า ดาวเทียมนูร์จะโคจรรอบโลกที่ระดับความสูงเหนือน้ำทะเลราว 425 กิโลเมตร

 

ด้านสถานีโทรทัศน์อิหร่าน ได้เผยแพร่ภาพการปล่อยจรวอดพร้อมดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศ โดยดาวเทียมดวงนี้ ชื่อว่า “คาสเซด” หมายความว่า “ผู้ส่งสาร” โดยนายโมฮัมหมัด จาวัด อาซารี จาห์โรมี รัฐมนตรีโทรคมนาคมอิหร่าน ทวีตข้อความ แสดงความยินดีกับกองทัพอากาศในความยิ่งใหญ่ครั้งนี้

 

ทั้งนี้ การปล่อยดาวเทียมทางการทหารของอิหร่านมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน ที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง นับตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่สหรัฐได้ลอบสังหาร นายพลคาเซม โวไลมานี ผู้บัญชาการของไออาร์จีซี ขณะอยู่ที่อิรัก และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลวอชิงตันได้กล่าวหาว่าอิหร่านประทุษร้ายต่อเรือของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันที่ 22 เมษายนว่า ตนได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐยิงหรือทำลายเรือปืนหากพบว่าเป็นอันตรายต่อเรือของสหรัฐ

 

ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การปล่อยดาวเทียมดังกล่าวเป็นการพิสูจน์ข้อกล่าวหาของสหรัฐที่เคยระบุไว้ว่า โครงอากาศอวกาศของอิหร่านเป็นโครงการเพื่อการทหาร มากกว่าเพื่อการพาณิชย์

 

อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังคงยืนยันว่าไม่ต้องการมีอาวุธนิวเคลียร์ และว่า กิจกรรมทางด้านอวกาศของอิหร่านเป็นไปเพื่อสันติและเป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง