เปิดประเทศ! กทม.เผยมาตรการเตรียมรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1 พ.ย.นี้

วันนี้( 15 ต.ค.64) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความพร้อมในการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนว่า กทม.มีนโยบายที่จะเตรียมพร้อมในการเปิดเมืองตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลง แต่จะต้องมีมาตรการต่างๆที่ต้องปฏิบัติทั่วไปใน 2 ส่วน คือ 

1.การป้องกันการติดเชื้อจากชาวต่างชาติ ด้วยการตรวจโควิดทางโพรงจมูก หรือ สวอพ และการเปิดจุดคัดกรอง ที่คล้ายกันกับรูปแบบของภูเก็ต ที่ใช้โรงแรมเป็นจุดคัดกรอง แต่กรุงเทพฯนั้นมีนักท่องเที่ยวในแต่ละปีเฉลี่ยจำนวน 21 ล้านคนต่อปี ดังนั้นจะมีการเปิดจุดที่เรียกว่า ฮับ สวอพ ในการคัดกรองและกักตัวในโรงแรมเพื่อรอผล

ขณะที่ในส่วนที่ 2.การป้องกันไม่ให้คนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นำเชื้อไปแพร่ต่อในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีมาตรการควบคุมพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะสถานบริการ โดยใช้การตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน test kit การฉีดวัคซีนในพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งในเรื่องของการปรับลดเวลาเคอร์ฟิวนั้น กรุงเทพมหานครได้มีการประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องรอในส่วนของข้อกำหนดจากรัฐบาล ซึ่งถ้าหากรัฐบาลมีการประกาศข้อกำหนดกรุงเทพฯ ก็จะมีการประกาศตามในทันที

ส่วนกรณีสำนักอนามัย กทม. ขอเลื่อนการส่งไฟเซอร์ออกไปอย่างไม่มีกำหนดให้กับโรงเรียนย่านฝั่งธนบุรีจำนวน 13 แห่ง โฆษกกรุงเทพมหานคร เผยว่า เรื่องของวัคซีน ขณะนี้สำนักอนามัย กทม.พร้อมที่จะฉีดให้ตามกำหนดการเดิม ซึ่งโรงพยาบาลที่จับคู่กับโรงเรียนจะเป็นผู้แถลงในรายละเอียดต่อไป ส่วนการฉีดวัคซีนของกทม.นั้นได้มีการฉีดวัคซีนการฉีดวัคซีนในโครงการไทยร่วมใจมาโดยตลอดเฉลี่ยวันละ 4-5 หมื่นคน โดยการฉีดวัคซีนไปจนถึงวันที่ 23 ตุลาคม และในวันที่ 25 - 26 ตุลาคมนั้น กทม.ได้รับการประสานจากทูตประจำประเทศไทยของ 3 ประเทศ ได้แก่ พม่า , กัมพูชา และลาว ที่จะมีการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าวจำนวน 10,000 ราย เป็นเวลา 2 วัน ที่ธนาคาร SCB สำนักงานใหญ่ จึงขอเชิญชวนแรงงานต่างด้าวที่อาศัยและทำงานอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้ารับการฉีดวัคซีนในสถานที่ดังกล่าว

ขณะที่ประเด็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะดึงตัว แอนเดรีย โบเชลลี นักร้องโอเปราชื่อดังของโลกชาวอิตาลี มาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะใช้พื้นที่บริเวณสนามหลวงโดยมีฉากหลังเป็นวัดพระแก้วนั้น การจะเข้าเคาท์ดาวน์หรือจัดกิจกรรมอะไร กทม.ไม่สามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม จะต้องมีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ว่าเห็นด้วยหรือไม่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ และมีการเสนอไปทางศบค.ใหญ่ ให้นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธานเป็นผู้ตอบในประเด็นดังกล่าว

ภาพโดย TNN Online