ภาคเอกชนหวั่นแรงงานตกงาน 7 ล้านคนเสนอรัฐจ่ายเงินเดือน50%

นายสุพันธุ์มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 มีความรุนแรงมากกว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เนื่องจากปี2540 ผู้ที่ได้รับผลประทบจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ถึงกลางและธุรกิจการเงินที่กู้เงินจากต่างประเทศ และเมื่อค่าเงินบาทลอยตัวทำให้ธุรกิจเหล่านี้ต้องปิดกิจการซึ่งกกร.ประเมินว่าสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจหลักล้านล้านบาท
นอกจากนั้นประเมินว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีแรงงานตกงาน 7.13 ล้านคน จากแรงงานในระบบประกันสังคมประมาณ 38 ล้านคนคิดเป็น 18.5% ของแรงงานทั้งหมด แบ่งเป็นธุรกิจบันเทิงคาดว่าจะเลิกจ้าง 6 หมื่นคน ร้านอาหาร 2.5 แสนคน สปาและร้านนวดในระบบ 3.96 หมื่นคนสปาและร้านนวดนอกระบบ 2 แสนคน
ธุรกิจโรงแรม 9.78 แสนคน ศูนย์การค้าและค้าปลีก 4.2ล้านคน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 7.76 หมื่นคนสิ่งทอ 2 แสนคน และธุรกิจก่อสร้าง 1 ล้านคนโดยแรงงานที่อาจตกงาน 7.13 ล้านคนนี้จะเป็นแรงงานที่มีรายได้ ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน 6.773ล้านคน คิดเป็น 95% ของแรงงานที่ตกงาน
ทั้งนี้กกร.เสนอมาตรการด้านแรงงานประกอบด้วยขอให้ภาครัฐมีมาตรการเพิ่มเติมให้แรงงานในระบบประกันสังคมได้รับชดเชยรายได้ เพราะพนักงานที่ต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนจะไม่ได้รับเงินชดเชยการหยุดกิจการชั่วคราวจากคำสั่งของรัฐและไม่เข้า หลักเกณฑ์เยียวยา 5,000 บาทดังนั้นสำนักงานประกันสังคมควรมาช่วยเหลือ โดยจ่ายเงิน 50% ของค่าจ้าง
รวมทั้งเสนอให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือแรงงานที่เงินเดือนไม่เกิน 1.5หมื่นบาท โดยยังได้รับเงินเดือน 75% และไม่ตกงานโดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีโอกาสปลดแรงงานออกเพื่อให้จ่ายเงินเดือนอัตรา 75% ของเงินเดือนปกติโดยภาครัฐสนับสนุนค่าจ้างเงินเดือน 50% จากประกันสังคมและบริษัทเอกชนจ่ายอีก 25% ให้พนักงานและแรงงานที่มีเงินเดือนไม่เกิน1.5 หมื่นบาท ซึ่งจะช่วยลดอัตราการว่างงานได้มาก