บลจ.วีรุกกองทุนส่วนบุคคล เล็งออกฟันด์ธีมจัดการน้ำ

ทันหุ้น- บลจ.วี เปิดแผนโตต่อเนื่อง รอ ก.ล.ต.อนุมัติไลเซนส์กองทุนส่วนบุคคล คาดได้รับภายในปีนี้ พร้อมแผนออกกองทุนใหม่ ภายใต้ธีมเมกะเทรนด์ สนใจธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มองมีโอกาสเติบโตสูงเพราะโลกขาดแคลนน้ำสะอาด รวมถึงกองทุนที่สร้างโอกาสโตแม้ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ และช่องทางบริการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) ประกอบธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในปี 2564 และจะทำให้ บลจ.วี สามารถให้บริการที่หลากหลายตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า
รุกเข้ากองทุนส่วนบุคล
ภายใต้การบริหารกองทุนส่วนบุคคล สิ่งที่ลูกค้าคาดหวังคือผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้น บลจ.วีจะใช้ประสบการณ์ในการปริหารจัดการกองทุน ปรับแต่งพอร์ตลงทุนให้สามารถสร้างผลตอบแทนตามที่ลูกค้าหวังได้ ซึ่ง บลจ. วี ได้สร้างโมเดลพอร์ตตามระดับความเสี่ยงตั้งแต่ สูง กลาง ต่ำ ภายใต้ประมาณการผลตอบแทนที่ลูกค้าจะได้รับในแต่ละปี
“เรามองว่า กองทุนส่วนบุคคลเป็นตลาดที่น่าสนใจ ภายใต้บรรยากาศการลงทุนที่ผันผวนในปีนี้ และต่อเนื่องไปปี 2565 ทำให้การคัดเลือกสินทรัพย์ และจัดการพอร์ตลงทุนเองอาจไม่ง่ายเหมือนอดีต โดยเฉพาะการลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นเราจะเข้ามาทำหน้าที่บริหารพอร์ตลงทุนให้”
ซึ่งปัจจุบัน การลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้น และยังให้ผลตอบแทนที่ดี แต่กระนั้นก็มาคู่กับความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
นางสาวนิตยา กล่าวต่อไปว่า บลจ.วี ได้วางบทบาทเป็น Wealth Creator Provider คือการสร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน ด้วยเป้าหมายดังกล่าวทำให้ บลจ.วี โฟกัสแผนงาน และการออกกองทุนรวมที่ช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนให้กับลูกค้า
กองทุนของ บลจ.วี จะเน้นในเรื่องของธีม (Themes) ที่มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะในธีมเมกะเทรนด์โลก ภายใต้เทรนด์ดังกล่าว สร้างโอกาสเติบโตให้กับกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งก็ยังแยกออกไป ทั้งในส่วนของกลุ่มธุรกิจเกม กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งรถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมองเห็นดอกาสเติบโตในกลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มธุรกิจสุขภาพ หรือเฮลแคร์ หรือธีมที่กำลังมาแรงอย่าง ESG หรือ การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance)
ธีมบริหารจัดการน้ำน่าสน
นางสาวนิตยา กล่าวต่อไปว่า บลจ.วีเห็นโอกาสการเติบโตในหลายธุรกิจ และสิ่งที่ บลจ.วีกำลังสนใจคือ ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ผู้คนลืมตระหนักถึงคือ น้ำสะอาดเป็นสิ่งที่โลกขาดแคลน ปัจจุบันมีบริษัทที่คิดค้นนวัตตกรรมเพื่อบริหารจัดการน้ำเสียให้นำกลับมาใช้ได้ นอกจากการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ยังเป็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสายนี้ อย่างไรก็ตาม การจะออกกองทุนอาจจะต้องรอดูความต้องการ และดีมานด์ตลาดก่อน
แต่ในระยะสั้น บลจ.วี อาจจะออกกองทุน หุ้นกู้แปลงสภาพ(Convertible bond) ก่อน เนื่องจากมุมมองของเรา เห็นว่าเทรนด์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหลังปรับลดวงเงิน QE (Quantitative easing)คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในจังหวะนี้จะทำให้ตลาดหุ้นผันผวน โดย การลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพมีความน่าสนใจตรงที่สามารถให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกได้แม้แต่ในช่วงที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร
การเปิดดำเนินธุรกิจมาครบ 3 ปี และก้าวขึ้นสู่ปีที่ 4 นางสาวนิตยา บอกว่า บลจ. วีเป็นที่รู้จักมากขึ้น ดังนั้นแผนงานต่อจากนี้คือการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า ซึ่งบลจ.วีจะใช้เรื่องดังกล่าวเป็นจุดแข็ง กล่าวคือ การสื่อสารที่รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ กับลูกค้าในประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก และอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน
“จุดแข็งของเราคือสร้างประสบการณ์ที่ดีกลับลูกค้า เราออกบทวิเคราะห์และให้มุมมองการลงทุนภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ลงทุน”นางสาวนิตยา กล่าวทิ้งท้าย