รีเซต

ฮุนเซนชี้ 'ครัวเรือนกัมพูชา' เกือบหมื่น สมัครใจย้ายจากพื้นที่ 'นครวัด'

ฮุนเซนชี้ 'ครัวเรือนกัมพูชา' เกือบหมื่น สมัครใจย้ายจากพื้นที่ 'นครวัด'
Xinhua
21 ตุลาคม 2565 ( 18:23 )
32
ฮุนเซนชี้ 'ครัวเรือนกัมพูชา' เกือบหมื่น สมัครใจย้ายจากพื้นที่ 'นครวัด'

เสียมราฐ, 21 ต.ค. (ซินหัว) -- วันศุกร์ (21 ต.ค.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยว่าครอบครัวชาวกัมพูชาซึ่งอาศัยอยู่ในโครงสร้างผิดกฎหมายบนพื้นที่อุทยานโบราณคดีอังกอร์หรือนครวัด ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ สมัครใจโยกย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่ อย่างน้อย 9,065 ครัวเรือนแล้ว

 

สถานที่ใหม่ดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุนตาเอกในเขตบันทายศรี และพื้นที่ปากสะเนงในเขตนครธมนอกอุทยานฯฮุนเซนกล่าวขณะเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่โยกย้ายว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปเพื่อรักษาความงามของอุทยานฯ ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1992"เรายอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่ยูเนสโกกำหนด ตอนเสนอให้มีการขึ้นทะเบียนอุทยานฯ เป็นมรดกโลก เราจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านั้น มิฉะนั้นอุทยานฯ อาจถูกถอดออกจากรายการมรดกโลก" ฮุนเซนเปิดเผยฮุนเซนระบุว่าแต่ละครอบครัวที่ย้ายออกไป ได้รับมอบที่ดินกว้าง 20 เมตร และยาว 30 เมตร และบัตรคนยากจน ซึ่งเปิดทางผู้ถือบัตรเข้าถึงเงินช่วยเหลือรายเดือนและค่ารักษาพยาบาลฟรีเป็นเวลา 10 ปีรัฐบาลกัมพูชาเริ่มย้ายผู้บุกรุกออกจากอุทยานฯ หลังจากยูเนสโกเตือนว่าโบราณสถานแห่งนี้อาจถูกถอดออกจากรายการมรดกโลก เนื่องจากมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายจำนวนมากเกินไปในพื้นที่ ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดและเงื่อนไขขององค์การฯ ทว่าขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนครัวเรือนซึ่งยังอาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ อย่างแน่ชัดทั้งนี้ อุทยานฯ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา โดยอังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) เผยว่าอุทยานฯ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 134,152 คนช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,075 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และสร้างรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 5.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 205.64 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,012 เมื่อเทียบปีต่อปีอนึ่ง อุทยานฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 2.2 ล้านคนในปี 2019 เมื่อช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.79 พันล้านบาท)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง