หวนคืนสู่ป่า! 'โคอาลา' บาดเจ็บจากไฟป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลียกลับบ้านแล้ว
ซิดนีย์, 8 ธ.ค. (ซินหัว) -- เหล่าโคอาลาที่บาดเจ็บสาหัสจากเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงในออสเตรเลียเมื่อฤดูร้อนปีก่อนได้กลับบ้าน หลังจากรับการรักษาและพักฟื้นเป็นเวลาหลายเดือน
แถลงการณ์จากองค์กรซู วิคตอเรีย (Zoo Victoria) ระบุว่าช่วงเดือนที่ผ่านมา มีโคอาลาถูกปล่อยสู่พื้นที่ป่าในภูมิภาคอีสต์กิปส์แลนด์ของรัฐวิกตอเรีย จำนวน 14 ตัว โดยโคอาลากลุ่มสุดท้ายจำนวน 8 ตัว เพิ่งถูกปล่อยกลับเข้าป่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบรรดาโคอาลาที่ถูกกู้ชีพหลังเกิดเหตุไฟป่าในเดือนมกราคม เข้ารับการผ่าตัดแผลไฟไหม้รุนแรงหลายครั้ง และต้องติดตามการรักษาเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากรับการรักษาครั้งใหญ่
พวกมันยังได้รับการ "ฟื้นชีวิตธรรมชาติ" ด้วยการเสริมสร้างกำลังความแข็งแกร่งและความสามารถปีนป่ายที่คอกดูแลขนาดใหญ่ ณ อุทยานแห่งชาติเกาะฟิลลิป (Phillip Island Nature Parks) และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฮีลส์วิลล์ (Healesville Sanctuary)ลีแอนน์ วิกเกอร์ สัตวแพทย์อาวุโสขององค์กรฯ กล่าวว่าเป็นเรื่องพิเศษที่ได้เห็นโคอาลาที่ผ่านความยากลำบากมามากมายได้กลับสู่ป่าในที่สุด
"ฉันจะไม่มีวันลืมความบาดเจ็บและความบอบช้ำที่เราได้เผชิญเป็นครั้งแรกในหน่วยคัดแยกสัตว์ป่วยเมื่อเดือนมกราคมเลย" วิกเกอร์กล่าว "น่าเศร้าที่เราไม่สามารถช่วยชีวิตสัตว์อีกจำนวนมาก แต่เราทุ่มเทกำลังเต็มที่ในการรักษาอุ้งเท้า จมูก และใบหูที่ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง ระหว่างเฝ้าติดตามอาการบาดเจ็บภายในไปพร้อมกัน"รายงานจากกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เปิดเผยว่าสัตว์เกือบ 3 พันล้านตัว ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไฟป่าในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
รวมถึงโคอาลามากกว่า 60,000 ตัววิกเกอร์กล่าวว่าโคอาลาแต่ละตัวถูกติดตั้งอุปกรณ์ติดตามที่ปลอกคอ เพื่อให้ทีมงานเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และสุขภาพสัตว์สามารถติดตามความคืบหน้าได้ในช่วงหลายเดือนข้างหน้าคณะนักวิจัยหวังว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพ สวัสดิภาพ และการอยู่รอดในระยะยาวของโคอาลาที่กลับคืนสู่ป่าอีกครั้ง
(แฟ้มภาพซินหัว : โคอาลาที่สวมปลอกคอเครื่องติดตามเข้ารับการตรวจร่างกายในเมลเบิร์นของออสเตรเลีย วันที่ 6 ธ.ค. 2020)
(แฟ้มภาพซินหัว : โคอาลาในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฮีลส์วิลล์ของออสเตรเลีย วันที่ 6 ธ.ค. 2020)
(แฟ้มภาพซินหัว : โคอาลาที่มีผ้าพันแผลอุ้งเท้า ในสวนสัตว์เมลเบิร์นของออสเตรเลีย วันที่ 6 ธ.ค. 2020)