เขมรประชุมเตรียมเปิดด่านคลองลึก-ปอยเปต 15 ก.ค.นี้ ให้ผู้ค้าตลาดโรงเกลือเข้าไทยวันละ 50 คัน
สระแก้ว – ฝั่งกัมพูชาประชุมเตรียมความพร้อมเปิดด่านคลองลึก-ปอยเปต ให้ผู้ค้าตลาดโรงเกลือเข้าประเทศไทยไม่เกินวันละ 50 คัน เพื่อมาดูร้านและขนย้ายสินค้าในตลาดโรงเกลือ ตั้งแต่ 15 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ผู้ประกอบการเรียกร้องให้นำรูปแบบของ จ.จันทบุรีมาใช้ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถหากินค้าขายได้ทั้งฝั่งกัมพูชาและไทย
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายงอ เมง จรวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ได้เรียกประชุมหน่วยงานและแจ้งข่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวของของกัมพูชาเมื่อวานนี้ ให้ทราบว่า ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ทางด่านคลองลึก-ปอยเปต จะเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่มีห้องเช่าอยู่ในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และตลาดอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน อาทิ ตลาดเดชไทย ตลาดรัตนธรรม ตลาดเบญจวรรณ และตลาด อบจ.สระแก้ว สามารถเดินทางเข้ามาขนสินค้าของตนกลับเข้าไปยังเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชาได้ แต่สินค้านั้น ๆ จะต้องมีการซื้อขายกันอย่างถูกต้อง ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น.ของทุกวันโดยไม่มีกำหนด
ทั้งนี้ การเปิดด่านดังกล่าว จะเปิดให้เข้ามาเพียงวันละไม่เกิน 50 คันรถ ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าและรถแต่ละคันจะมีผู้โดยสารไม่เกินสองคน เช่นเดียวกับรถขนส่งสินค้าของประเทศไทยที่เดินทางเข้าไปส่งสินค้าในกัมพูชา ซึ่งทุกคนต้องทำตามระเบียบ มีหนังสือเดินทางและทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของไทยอย่างเคร่งครัด เช่น ผ่านการตรวจคัดกรอง วัดไข้ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามถอดและต้องอยู่ในบริเวณจำกัด อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ไทยทุกระยะเวลา ห้ามเดินทางไปไหนมาไหนและมีเจ้าหน้าที่ไทยดูแลตลอดเวลา
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการประชุมหารือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศและศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เสนอขอให้มีการเปิดด่านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในกรณีดังกล่าว รวมทั้งการเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้า อาทิ ช่องตาพระยา ช่องหนองปรือ ด่านเขาดิน และช่องอนุโลมโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างยกฐานะเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า เพื่อให้รถขนส่งสินค้าของทั้งสองประเทศ สามารถเดินทางข้ามแดนได้ด้วย เช่นกัน
สำหรับบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในปัจจุบัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า เริ่มทยอยเปิดร้านค้าขายกันมากขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ ประมาณ 30-40 % ของร้านค้าทั้งหมด ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น และจากเดิมที่ร้านค้าต่าง ๆ ใช้วิธีขนส่งขนถ่ายสินค้าด้วยรถเข็นลาก ล้อเลื่อนของแรงงานชาวกัมพูชา ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างแทนจำนวนมาก ซึ่งสะดวกและรวดเร็วเช่นกัน
ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภาองค์การบริการส่วนจังหวัดสระแก้ว และผู้ประกอบการค้าขายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ กล่าวว่า ตอนนี้มีชาวกัมพูชาเข้ามาค้าขายจำนวนมาก ทั้งมาดูสินค้าและค้าขายสินค้า คนไทยก็อยากได้สินค้า บางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บผลประโยชน์จากชาวกัมพูชา ฉะนั้นเรื่องตรงนี้จะเอาอย่างไรก็ทำให้ชัดเจนเลยว่า จะเปิดหรือไม่เปิด หรือใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ เพราะเราไม่เปิดเค้าก็เข้ามาได้อยู่ดี อยากให้ผู้มีอำนาจได้เข้ามาใส่ใจตรงนี้ ถามว่า โรคโควิด19 เป็นเรื่องน่ากลัวหรือกังวลใจมั้ย ก็กังวล แต่จังหวัดใกล้เคียงเราอย่าง จ.จันทบุรี ทางจันทบุรีให้เข้ามาได้ ค้าขายได้ โดยมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากลงไปช่วยคัดกรอง ทำให้พี่น้องประชาชนของ จ.จันทบุรี สามารถหากินได้ทั้งฝั่งกัมพูชาและไทย
“จึงอยากให้ จ.สระแก้ว เอาแบบอย่างเค้ามาทำ ท่านไม่เปิดเค้าก็เข้ามาอยู่ดี หนีเข้ามาแบบไม่ได้คัดกรองโรคด้วย แต่ถ้าท่านเปิด เราก็มีเจ้าหน้าที่เพียงพออยู่แล้ว ช่วยกันคัดกรอง เช่น เข้ามา 08.00 น. กลับ 16.00 น.ไป-กลับตลอดเวลา ห้ามค้างคืน ซึ่งผมคิดว่าแนวทางนี้น่าจะใช้ได้กับ จ.สระแก้ว” รองประธานสภาองค์การบริการส่วนจังหวัดสระแก้วและผู้ประกอบการค้าขายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดด่านผ่านแดนถาวรและด่านอื่น ๆ นั้น ตนมองว่า คนจังหวัดสระแก้วและคนไทยที่มีอาชีพค้าขายและรับของจากตลาดโรงเกลือไปขายต่อ อยากให้มีการเปิดด่าน แต่เชื่อว่า มันเกิดอำนาจของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ฉะนั้น ก็อยากให้หน่วยงานเช่น หน่วยความมั่นคงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รายงานไปยังส่วนระดับที่สูงกว่า ขอให้เปิดการค้าการขายได้แล้ว เพราะ จ.สระแก้ว เชื้อโควิดฯไม่มีมา 2 เดือน ซึ่งเป็นการควบคุมของผู้ว่าฯ ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่าง ๆ และประชาชนปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างมีวินัย ทำให้เชื้อหมดไป ฉะนั้นก็อยากให้เปิดเถอะ พี่น้องประชาชนจะได้ทำมาหากินกันได้
——————————