รีเซต

ไม่พลิกโผ! 'กมธ.ซีกรบ.-ส.ว.' โหวต 32:14 เสียง เอาบัตรคนละเบอร์-ปชป.เสียงแตก

ไม่พลิกโผ! 'กมธ.ซีกรบ.-ส.ว.' โหวต 32:14 เสียง เอาบัตรคนละเบอร์-ปชป.เสียงแตก
มติชน
30 มีนาคม 2565 ( 15:18 )
37
ไม่พลิกโผ! 'กมธ.ซีกรบ.-ส.ว.' โหวต 32:14 เสียง เอาบัตรคนละเบอร์-ปชป.เสียงแตก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่….) พ.ศ.​…. ที่มี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกมธ. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาในประเด็นหมายเลขผู้สมัครส.ส.เขต กับส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะใช้เป็นหมายเลขเดียวกันหรือไม่

 

ทั้งนี้ ก่อนการลงมติที่ประชุม เปิดให้กมธ.ได้ถกเถียงในเหตุผลของแต่ละฝ่าย โดยกมธ.ซีกฝ่ายค้าน จากพรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคเสรีรวมไทย (สร.) อภิปรายไปทางเดียวกัน โดยยืนยันให้ใช้บัตรเลือกตั้งส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นเบอร์เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจดจำของประชาชน และลดจำนวนบัตรเสีย อาทิ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ.จากพรรคสร. และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า การใช้บัตรเบอร์เดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ช่วยให้ไม่สับสน เลือกส.ส.ได้ตรงตามเจตนารมณ์ พรรคการเมืองหาเสียงง่าย และกกต.ก็จัดการเลือกตั้งง่าย ไม่ต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้ง 401 แบบ คือส.ส.เขต 400 แบบ และส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 แบบ และกกต.ไม่ต้องส่งบัตรเลือกตั้งทั้ง 401 แบบไปยังการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุก ส่วนข้อจำกัดการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 90 นั้น ต้องถามที่ประชุมรัฐสภาก่อนหน้านี้ว่า เหตุใดไม่ยอมแก้มาตรา 90 จนกลายเป็นเงื่อนปมที่ต้องมาตามแก้ อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวสามารถหาทางออกได้ อย่าไปกลัวผิดรัฐธรรมนูญ ถ้ากลัวผิดรัฐธรรมนูญ พอผ่านวาระ 3 แล้ว ก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความได้

 

ขณะที่ กมธ.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนยืนกรานว่า บัตรเลือกตั้งส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อต้องเป็นคนละเบอร์กัน เพื่อป้องกันไม่ให้ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 90 ที่ระบุให้เปิดรับสมัครส.ส.เขตในวันแรกก่อน จากนั้นค่อยสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อีกทั้งการใช้หมายเลขคนละเบอร์ยังช่วยป้องกันการซื้อเสียงให้ทำได้ยากขึ้น อาทิ นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวทำให้ซื้อเสียงง่ายมาก ต่างจากบัตรเลือกตั้งคนละเบอร์ที่ทำให้ซื้อเสียงยาก ไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้ประชาชน แต่สร้างความยุ่งยากให้กับคนที่คิดจะทุจริตมากกว่า

 

ด้าน นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก.ก. กมธ.จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า มั่นใจว่าถ้าใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกัน จะมีคนไปยื่นเรื่องว่า ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 90 แน่นอน จึงเห็นวาควรใช้บัตรครละเบอร์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กมธ.ถกเถียงแสดงความเห็นครบทุกคนแล้ว กระทั่งเวลา 13.00 น.ที่ประชุมจึงลงมติชี้ขาดในประเด็นดังกล่าว ผลปรากฏว่า กมธ.ลงมติเสียงข้างมากด้วยคะแนน 32 ให้ใช้บัตรเลือกตั้งส.ส.เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นคนละเบอร์กัน ตามร่างหลัก และ 14 เสียง ให้ใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกัน และงดออกเสียง 1 เสียง คือนายสาธิต โดยเสียงกมธ.ฝ่ายรัฐบาลรวมกันอย่างเหนียวแน่น 32 เสียง จากส.ว. 14 เสียง ครม. 7 เสียง พรรคพปชร. 5 เสียง พรรคภท. 3 เสียง พรรคปชป. 1 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 1 เสียง และพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) 1 เสียง ส่วนกมธ.ฝ่ายค้าน 14 เสียง ประกอบด้วยพรรคพท. 8เสียง พรรคก.ก. 3 เสียง พรรคสร. 1 เสียง รวมถึงเสียงกมธ.จากพรรคปชป.ที่แบ่งมาให้ 2เสียง

 

ภายหลังการประชุม นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานกมธ.ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมพิจารณาใน 2 ประเด็นคือเรื่องการแก้เรื่องเขตเลือกตั้งที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ที่ให้คณะทำงานกลับไปทำต่อเรื่องการแก้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อจะมีผลกระทบที่ต้องไปแก้รายมาตราในส่วนอื่นอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นการใช้บัตรเลือกตั้งสองใบเป็นเบอร์เดียวกันหรือไม่ โดยที่ประชุมลงมติ 32 ต่อ 14 เสียง ให้บัตรเลือกตั้งสองใบเป็นคนละเบอร์ โดยตนงดออกเสียงในฐานะประธานกมธ. จากองค์ประชุม 47เสียง ทั้งนี้กมธ.จากพรรคพท. พรรคก.ก. และอีกหลายคนขอสงวนความเห็นไว้ ถือว่าการทำงานของกมธ.เดินหน้าตามตารางที่ได้กำหนดไว้

 

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. กล่าวว่าการเสนอให้ใช้บัตรสองใบเบอร์เดียวกัน เพื่อความสะดวกกับผู้ใช้สิทธิ์ ไม่สร้างความสับสนกับประชาชน แต่การใช้บัตรคนละเบอร์ยิ่งทำให้ผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งไม่ยอมหาเสียงให้พรรคการเมือง และจะยิงลูกโดด การลงมติครั้งนี้เสียงออกมาเป็นกลุ่มเป็นก้อน เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับข้อกังวลจะขัดรัฐธรรมนูญ แต่น่าจะกลัวแลนด์สไลด์จากพรรคพท.มากกว่า

 

ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพท. กล่าวว่า ดูผลลงมติที่ออกมา 32 เสียงของฝ่ายรัฐบาลแล้ว เชื่อว่า มีการสั่งการจากผู้มีอำนาจในรัฐบาลให้ลงมติออกมาในทิศทางเดียวกัน เพราะคะแนนออกมาเป็นกลุ่มก้อนเนื้อเดียวกัน ดูแล้วเป็นไปได้ยาก หากไม่มีการสั่งการมา อย่างไรก็ตามพรรคพท.และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยังสู้ต่อไป จะไปอภิปรายเพื่อคัดค้านในการประชุมรัฐสภาวาระ 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง