'โควิด' ระยองยังลาม ป่วยเพิ่มอีก 13 ราย มีชาวญี่ปุ่นมาทำงานติดเชื้อด้วย

'โควิด' ระยองยังลาม ป่วยเพิ่ม 13 ราย มีชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในระยองติดเชื้อด้วย ยอดสะสม 485 ราย แนะโหลดแอพหมอชนะ พกบัตรปชช.ก่อนออกนอกจังหวัด

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.64 ที่ศูนย์ราชการ จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง ร่วมแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของ จ.ระยอง

• ศบค.ชี้จังหวัดไม่พบติดเชื้อเพิ่มครบ 14 วัน จ่อปลดจากพื้นที่เสี่ยง ‘โควิด’
• เชียงใหม่ ประกาศที่เสี่ยง ใครไปขอเฝ้าระวังตนเอง มีทั้งวัดดัง ร้านดัง
• ศบค.เปิดทางเอกชน นำเข้า "วัคซีน" แต่ไม่ใช่ตอนนี้ แนะ อย่าเพิ่งโฆษณา

นายชาญนะ กล่าวว่า วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดของจ.ระยอง มียอดเพิ่มขึ้นจำนวน 13 คน มีชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในจ.ระยองรวมอยู่ด้วย 1 ราย ติดจากผู้ใกล้ชิด อาการไม่รุนแรง รวมยอดสะสมทั้งหมด 485 คน สำหรับจ.ระยองติดครบทั้ง 8 อำเภอแล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อที่อ.วังจันทร์อีก 1 ราย ก็นับว่าเป็นแนวโน้มที่ดี กับยอดผู้ป่วยที่ลดลงมาต่อเนื่อง โดยอำเภอเมือง ยังเป็นอำเภอที่พบยอดผู้ป่วยมากที่สุด

สำหรับการเดินทางออกนอกจังหวัดระยอง สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือการโหลดแอพพลิเคชั่น ‘หมอชนะ’ และบัตรประชาชนไว้ให้พร้อม การขออนุญาตการเดินทาง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้เดินทางทั่วไป สามารถโหลดแบบฟอร์ม แล้วกรอกข้อมูลไปขออนุญาตได้ที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่ว่าการอำเภอ เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม

ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่ได้ยกเว้น คือผู้ขนสินค้า เช่น ยา ไปรษณีย์ภัณฑ์ หรือไปทำงานในสถานที่ประกอบการนอกจังหวัด เป็นต้น สำหรับบริษัทห้างร้าน ผู้ประกอบการ นายจ้าง หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ สามารถออกใบรับรองของบริษัทให้กับพนักงานถือไปยื่นตามจุดตรวจคัดกรอง สำหรับแรงงานต่างด้าวต้องขอที่จัดหางานจังหวัดเท่านั้น

ส่วนเรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ควรเลื่อนการจัดออกไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยง แต่ถ้าต้องการจัดมียอดเกิน 50 คน ต้องขออนุญาตหากเกิน 100 คน ต้องขออนุญาตกับทางจังหวัด เพื่อผ่านการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ขอความร่วมมือว่า อย่าเพิ่งจัดก่อนในช่วงนี้ เรื่องตลาดนัดสาเหตุที่ต้องปิด เพราะพ่อค้าแม่ค้าเดินทางไปขายหลายแห่ง จึงมีความเสี่ยงสูง จึงจำเป็นต้องปิดเพื่อป้องกัน แต่ก็เตรียมหามาตรการช่วยเหลือ

ด้าน นายแพทย์ สุนทร กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 65 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่ยังรักษาอยู่ ซึ่งยังมีเตียงพอรองรับผู้ป่วย แต่ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ยอดผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะตรวจเชิงลึกอยู่ทุกวัน

ขอฝากให้ทุกคนต้องป้องกันตนเอง ตามมาตรการของสาธารณสุขกำหนด หลีกเลี่ยงไปยังจุดที่มีคนหนาแน่น ถึงวันนี้ดีขึ้นแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด หากท่านใดมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันที