BKA เกมเพิ่มทุน 52.5 ล. เจาะตลาดบ้านพรีเมียม

#BKA #ทันหุ้น - BKA อัพพอร์ตสู่พรีเมียม เดินหน้าเพิ่มทุน 52.5 ล้านบาท เตรียมขาย RO อัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคา 0.60 บาทต่อหุ้น หวังระดมเงินราว 63 ล้านบาท เติมกระสุนขยายช่องทางธุรกิจเสริมสภาพคล่อง พร้อมปักธงเจาะตลาดบ้านมือสองรีโนเวตระดับบน 7–10 ล้านบาท
นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA ผู้นำบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน 52.5 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นตลาดพรีเมียมมากขึ้น โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Rights Offering : RO) ในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 0.60 บาทต่อหุ้น
แผนเพิ่มทุน
ปัจจุบัน BKA มีทุนจดทะเบียน 105 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 157.5 ล้านบาท และออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 105,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจากการเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2569 โดยกำหนดวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุม (Record Date) และกำหนดวันขึ้นทะเบียนผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน (Record Date) วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2569 ขณะที่กำหนดช่วงจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 23–27 กุมภาพันธ์ 2569
กรณีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อเต็มจำนวน บริษัทจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 63 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการลงทุนในการขยายช่องทางและโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน
เจาะระดับบน
ขณะเดียวกัน บริษัทเดินหน้าปรับพอร์ตสู่ตลาดระดับบน โดยตั้งเป้าขยายไปยังกลุ่มราคาขาย 7–10 ล้านบาท จากเดิมที่มีฐานหลักอยู่ในช่วง 5–7 ล้านบาท พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์ควบคู่การสร้างแบรนด์ ผ่านการมีที่ปรึกษา ทีมสถาปัตยกรรม และระบบงานก่อสร้างที่มีมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายและเอกลักษณ์ของบ้านแต่ละหลัง ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนอัตรากำไรให้สูงขึ้น
ที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยใช้กระแสเงินสดชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยจนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้สถานะทางการเงินเข้าใกล้การเป็นบริษัทปลอดหนี้ และในระยะยาวจะช่วยยกระดับความสามารถทำกำไรที่สะท้อนผ่านงบการเงินได้ชัดเจนขึ้น
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มเข้าสู่ทิศทางขาลงถือเป็นปัจจัยบวก แม้ภาพรวมปี 2569 ยังไม่ชัดเจนว่าจะฟื้นตัวได้หรือไม่ แต่หากผ่านช่วงความไม่แน่นอนดังกล่าวไปได้ ภายใต้แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง บริษัทเชื่อว่าปี 2570 จะเห็นการฟื้นตัวที่โดดเด่นมากขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
