รีเซต

เปิดรายละเอียด หลักเกณฑ์-วิธีการอัตราจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายแก่จำเลยคดีอาญา

เปิดรายละเอียด หลักเกณฑ์-วิธีการอัตราจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายแก่จำเลยคดีอาญา
TNN ช่อง16
4 มิถุนายน 2568 ( 16:49 )
9

วันนี้ (4 มิ.ย.2568) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานศาลยุติธรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

นายคารม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. .... ขึ้น มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทน ผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาของกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อัตราการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญามีความเหมาะสม ตอบสนองความต้องการของประชาชนและลดขั้นตอนที่เกินความจำเป็น ไม่เป็นภาระของประชาชน และเกิดความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น มีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้

1.หลักการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหาย สาระสำคัญ ในการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ให้คณะกรรมการ พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาคำนึงถึงพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำความผิดและสภาพความเสียหายที่ผู้เสียหายได้รับ รวมถึงโอกาสที่ผู้เสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายโดยทางอื่นด้วย (คงเดิม)

2.การจ่ายค่าตอบแทนในกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย (จ่ายแก่ทายาทของผู้เสียหาย) สาระสำคัญ ให้ได้รับค่าตอบแทนไม่เกิน 300,000 บาท (เดิม 30,000 – 100,000 บาท) ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย โดยคำนึงถึง ค่าจัดการศพ (เดิม 20,000 บาท) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู (เดิม 40,000 บาท) และค่าเสียหายอื่น (เดิม 40,000 บาท) มาประกอบการพิจารณา

3.การจ่ายค่าตอบแทนในกรณีผู้เสียหายไม่เสียชีวิต สาระสำคัญ กำหนดค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 80,000 บาท (เดิม กำหนดไม่เกิน 40,000 บาท) กำหนดค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 50,000 บาท (เดิม กำหนดไม่เกิน 20,000 บาท)  กำหนดค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงาน ณ วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ (คงเดิม)  กำหนดค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการเห็นสมควร โดยคำนึงถึงความเสียหายทางกายหรือจิตใจ หรือความเสียหายอื่นที่ยังหลงเหลืออยู่ตามคำวินิจฉัยของแพทย์ไม่เกิน100,000 บาท (เดิม ไม่เกิน 50,000 บาท) กำหนดค่าตอบแทนการสูญเสียอวัยวะหรือการสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะหรือความพิการทุพพลภาพ ไม่เกิน 300,000 บาท (กำหนดขึ้นใหม่) เช่น

- ทุพพลภาพ 300,000 บาท - แขนขาดข้างหนึ่ง/เท้าขาดสองข้าง 245,000 บาท- ขาขาดข้างหนึ่ง 225,000 บาท - มือขาดข้างหนึ่ง 185,000 บาท เป็นต้น

4. หลักเกณฑ์พิจารณาจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย สาระสำคัญ ในการพิจารณาจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาให้คณะกรรมการคำนึงถึงพฤติการณ์ของคดี ความเดือดร้อนที่ได้รับและโอกาสที่จำเลยจะได้รับการชดเชยความเสียหายจากทางอื่นด้วย (คงเดิม)

5.การจ่ายทดแทนในกรณีผู้เสียหายไม่เสียชีวิต สาระสำคัญ กรณีที่จำเลยในคดีอาญาถึงแก่ความตาย อันเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี ให้ได้รับค่าทดแทนไม่เกิน 300,000 บาท (เดิม 100,000 บาท) ให้คณะกรรมการพิจารณาค่าทดแทนแก่จำเลยในคดีอาญาโดยคำนึงถึง - ค่าจัดการศพ (เดิม 20,000 บาท) - ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู (เดิม 40,000 บาท) - ค่าเสียหายอื่น (เดิม 40,000 บาท) มาประกอบการพิจารณา

6. การจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายในกรณีจำเลยไม่เสียชีวิต สาระสำคัญ กำหนดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 80,000 บาท หากความเจ็บป่วย ของจำเลยเป็นผลโดยตรง จากการถูกดำเนินคดี (เดิม กำหนดไม่เกิน 40,000 บาท)  ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท หากความเจ็บป่วยของจำเลยเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี (คงเดิม)  ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างถูกดำเนินคดี ให้จ่ายในอัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงาน ณ วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ (คงเดิม)  ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินคดี ได้แก่ ค่าทนายความให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินอัตราที่กำหนด และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินคดี ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท (คงเดิม)

7.การขอรับเงิน สาระสำคัญ เมื่อมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (เขต กทม.) หรือผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด (เขตต่างจังหวัด) จะเป็นผู้ลงนามใบสั่งจ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานขอรับเงิน (เดิม ประชาชนต้องมาติดต่อ 2 ครั้งครั้งแรก ยื่นคำขอ ครั้งที่ 2 ขอรับเงิน

ทั้งนี้ ยธ. ได้ดำเนินการตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว การดำเนินการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเยียวยา คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐที่เหมาะสมสอดคล้องกับเศรษฐกิจปัจจุบันตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐโดยตรงที่จะให้การช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำการละเมิดหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบกระบวนการยุติธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง