ศบค.เผย 67 จว. ป่วยโควิดพุ่ง 1.1 หมื่นราย สลด หญิงท้องดับ 3 ราย พยาบาลอีก 1 ราย

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อรวม 210,105,354 ราย อาการรุนแรง 108,059 ราย รักษาหายแล้ว 188,219,284 ราย เสียชีวิต 4,405,540 ราย
ไทยอยู่อันดับที่ 34 ของโลก
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 38,072,656 ราย อินเดีย 32,320,898 ราย บราซิล 20,458,221 ราย รัสเซีย 6,663,473 ราย ฝรั่งเศส 6,533,383 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 34 จำนวน 989,859 ราย (ยอดสะสมตั้งแต่ปี 2563)
ติดเชื้อใหม่ 20,902 ราย ต่างจังหวัดพุ่งทะลุหมื่น
สำหรับสถานการณ์ในประเทศ วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20,902 ราย แยกเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8,627 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 752 ราย จังหวัดอื่นๆ รวม 67 จังหวัด 11,351 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 148 ราย และจากต่างประเทศ 24 ราย
หายป่วย 22,208 ราย โคม่า 5,439 ราย
มีผู้ป่วยสะสม 960,996 ราย หายป่วยกลับบ้าน 22,208 ราย หายป่วยสะสม 747,901 ราย กำลังรักษา 205,946 ราย ในโรงพยาบาล 48,895 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 157,051 ราย อาการหนัก 5,439 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,168 ราย
สลดพบตั้งครรภ์ดับ 3 ราย พยาบาล 1 ราย
สำหรับยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 8,492 ราย วันนี้มีเสียชีวิตเพิ่ม 301 ราย แยกเป็นพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 141 ราย พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ 9 ราย จังหวัดอื่นๆ 150 ราย และเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1 ราย เป็นชาย 171 ราย หญิง 130 ราย คนไทย 287 ราย เมียนมา 11 ราย กัมพูชา 1 ราย จีน 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย ค่ามัธยฐานของอายุ 65 ปี ตั้งแต่ 26-105 ปี
โดยผู้เสียชีวิตมากสุดเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 184 ราย มีโรคเรื้อรัง 68 ราย และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 45 ราย ยังพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงตั้งครรภ์ 3 ราย อยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ตราด ยะลา และพยาบาล 1 ราย อยู่กรุงเทพฯ ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มเมื่อเดือนเมษายน 2564 และพบมีเสียชีวิตที่บ้าน 4 ราย ที่ จ.ลพบุรี 2 ราย จันทบุรี 1 รายและกรุงเทพฯ 1 ราย
“กทม.-สมุทรสาคร-ชลบุรี” มีผู้ติดเชื้อมากสุด
สำหรับ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 4,392 ราย สะสม 230,419 ราย สมุทรสาคร 1,739 ราย สะสม 60,259 ราย ชลบุรี 1,322 ราย สะสม 50,744 ราย สมุทรปราการ 937 ราย สะสม 63,285 ราย นครปฐม 644 ราย สะสม 21,663 ราย นครราชสีมา 639 ราย สะสม 12,569 ราย ราชบุรี 585 ราย สะสม 11,199 ราย นนทบุรี 495 ราย สะสม 38,269 ราย สระบุรี 481 ราย สะสม 14,748 ราย และฉะเชิงเทรา 472 ราย สะสม 18,728 ราย
พบติดเชื้อใน ”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” 2 ราย
ส่วนการติดเชื้อจากผู้เดินทางมาจากประเทศ 24 ราย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย อิสราเอล 2 รายในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มาเลเซีย 1 ราย ลาว 1 ราย กัมพูชา 6 ราย เมียยมา 13 ราย ผ่านช่องทางธรรมชาติและผ่านพรมแดนทางบก
ฉีดวัคซีนแล้ว 25.1 ล้านโดส “กทม.” เข็ม1 ยอดลิ่ว 80.02%
ภาพรวมการได้รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์-18 สิงหาคม 2564 มียอดฉีดสะสม 25,167,060 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 19,143,574 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 5,503,882 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 519,604 ราย โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม มียอดฉีดเพิ่ม 548,311 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 417,169 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 122,206 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 8,936 ราย
เมื่อแยกเฉพาะกรุงเทพฯ มีประชากร 7,699,174 คน มียอดฉีดสะสมแล้ว 7,673,949 ราย แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 6,161,161 ราย คิดเป็น 80.02% โดยฉีดซิโนแวค 1,141,688 ราย ซิโนฟาร์ม 539,300 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 4,480,173 ราย ไฟเซอร์ 8,707 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 1,378,756 ราย แยกเป็นซิโนแวค 919,253 ราย ซิโนฟาร์ม 323,971 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 135,532 ราย ไฟเซอร์ 4,037 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 134,032 ราย แยกเป็นแอสตร้าเซนเนก้า 54,300 ราย ไฟเซอร์ 79,732 ราย และมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จำนวน 1,378,756 ราย คิดเป็น 17.91%