รีเซต

SCC ครึ่งหลังดีรับไฮซีซัน ทุ่ม3.32หมื่นล.อัพแกร่ง

SCC ครึ่งหลังดีรับไฮซีซัน ทุ่ม3.32หมื่นล.อัพแกร่ง
ทันหุ้น
10 สิงหาคม 2566 ( 13:43 )
178

SCC ลุ้นครึ่งหลังปี 2566 ผลงานโตต่อเนื่อง รับแรงหนุนไฮซีซันปิโตรเคมี แถมทุ่มงบ 2.32-3.32 หมื่นล้านบาท ลุยเสริมแกร่งรอบด้าน ปูทางโกยเงินระยะยาว ส่วนเรื่องดันบ.ย่อย SCGC เข้าเทรด SET ระดมทุนเสริมแกร่งระยะยาว คาดความชัดเจนไม่เกินตุลาคม 2566

 

นายทศทิศ อาทรธรรมรัตน์ IR Director บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า บริษัทแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี2566 มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซันของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีภัณฑ์ ส่งผลให้ความต้องการ (ดีมานด์) เติบโตอย่างชัดเจน นอกเหนือจากธุรกิจในส่วนๆ ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

 

ควักงบอัพแกร่ง

ขณะที่ในช่วงที่เหลือปี 2566 ทาง SCC มีแผนทุ่มเงินลงทุนประมาณ2.32-3.32 หมื่นล้านบาท เพื่อรองการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ซึ่งเงินลงทุนส่วนใหญ่ใช้สำหรับโครงการโครงการปิโตรเคมีครบวงจรLSP เวียดนาม เพื่อเสริมกำลังผลิตในส่วนดังกล่าว รองรับดีมานด์ที่ขยายตัว

 

อย่างไรก็ดี ในแง่ของความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการLSP ในเวียดนาม ล่าสุดอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ ต่างๆ ภายในโรงงาน เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ต่อไป เป็นการเสริมกำลังผลิตและสนับสนุนการเติบโตในอนาคต เปิดผลิตได้ช่วงปลายปีนี้

 

ลุ้นSCGCเข้าเทรด

นายทศทิศ กล่าวเสริมว่า เรื่องการนำบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC (บริษัทย่อยของ SCC ) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว หลังช่วงที่ผ่านมาทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว โดยทางหน่วยงานดังกล่าวได้มีการขยายกรอบเวลาไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม2566 และน่าจะมีอัพเดทความชัดเจนได้ภายกรอบระยะเวลาดังกล่าว

 

อนึ่ง ล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมมือกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ในการร่วมศึกษาความเป็นไปได้ของรูปแบบธุรกิจและการพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(Energy Trading Platform) โดยการใช้โครงข่ายการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หวังตอบโจทย์ผู้ประกอบการทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมทั้งยังมองช่องทางหาแหล่งไฟฟ้าที่คุ้มค่า เหมาะสมกับรูปแบบและปริมาณการใช้ไฟของแต่ละธุรกิจ ตามเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (Renewable Energy-RE100)

 

โดยรูปแบบความร่วมมือข้างต้นนั้นทางบริษัทจะทำให้หน้าที่เป็นผู้พัฒนาระบบEnergy Trading Platform ส่วนทาง PEA ซึ่งเป็นผู้มีระบบโครงสร้างพื้นฐานในส่วนโครงข่ายไฟฟ้าและอื่นๆ จะเป็นผู้สนับสนุนในส่วนดังกล่าว ซึ่งโครงการแรกนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 Borthong Industries อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ และถือเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น

 

ลุยแพลตฟอร์มซื้อขายไฟ

นอกจากนี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังถือเป็นการช่วยต่อยอดธุรกิจพลังงานของบริษัท และช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินงานที่ครบวงจรมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ปรับตัวดีขึ้นอีกทางหนึ่ง

 

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มในครึ่งปีหลัง แม้เชื่อว่าตลาดปิโตรเคมียังอยู่ภาวะอุปทานล้นตลาด และปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาคยังกดดันอุปสงค์วัสดุก่อสร้าง-บรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง และในปี 2567 ของ SCC จะมีสัญญาณที่ดีขึ้น เพราะอุปทานใหม่HDPE ผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว

 

เป้าหมาย 370บ.

รวมถึงปัจจัยบวกจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติม โดยเฉพาะอุตสาหกรรรมอสังหาริมทรัพย์ , เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการย้านฐานผลิตของจีน โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ และต้นทุนพลังงานลดลง ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง ฝ่ายวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายของSCC ไว้ระดับ 370.00 บาท รวมทั้งมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง