รีเซต

คลัง ปลอบเหลือ 6 แสนล้านใช้รบโควิด ชี้ท่องเที่ยวซึมยาว 4 ปี

คลัง ปลอบเหลือ 6 แสนล้านใช้รบโควิด ชี้ท่องเที่ยวซึมยาว 4 ปี
ข่าวสด
2 ธันวาคม 2563 ( 16:56 )
48
คลัง ปลอบเหลือ 6 แสนล้านใช้รบโควิด ชี้ท่องเที่ยวซึมยาว 4 ปี

คลังขอให้อุ่นใจ เหลืออีก 6 แสนล้านใช้รบโควิด-19 ปี'64 ดันเศรษฐกิจโต 4% แจงท่องเที่ยวซึมยาวอีก 4 ปีกว่าจะปกติ

 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวในงานสัมมนา “โควิด19 กับอนาคตเศรษฐกิจไทย 2021” ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังมีเม็ดเงินเพียงพอในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ที่ส่วนหนึ่งแบ่งไปใช้ในด้านสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท และมีการจ่ายเยียวยาประชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปแล้ว 3-4 แสนล้านบาท โดยยังเหลือวงเงินอีก 5-6 แสนล้านบาท ที่จะเป็นกระสุนในการฟื้นฟูและดูแลเศรษฐกิจในกรณีที่โควิด-19 ยังไม่ยุติได้

 

ขณะที่นโยบายด้านการเงิน ดำเนินการผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และระบบสถาบันการเงินต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันระบบสถาบันการเงินมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบต่าง ๆ ส่วนสถานการณ์เรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ส่งผลทำให้เงินดอลล่าร์ไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปัจจุบันถือว่าต่ำมากแล้ว ถ้าลดลงกว่านี้ก็จะสู่ระดับ 0% ต่อปี ถึงติดลบ หลายประเทศก็ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในลักษณะนี้ แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีช่องทางที่ทำให้เงินดอลล่าร์เข้า-ออกสะดวกได้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมผล อย่าง ธปท. ก็มีมาตรการต่าง ๆ ออกมาดูแลค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา

 

“มาตรการด้านการคลังตอนนี้ เน้นให้เกิดการใช้จ่ายเป็นสำคัญ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการช็อปดีมีคืน เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านการเงินมาตรการพักชำระหนี้ของ ธปท. ที่หมดลง ก็ได้ปรับเป็นการช่วยเหลือแบบตรงจุดเป็นรายคนมากขึ้น ส่วนของสถาบันการเงินของรัฐ คลังได้สั่งให้ขยายมาตรการออกไปถึง มิ.ย. 2564” นายอาคม กล่าว

 

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ เชื่อว่าจะติดลบน้อยกว่าที่คาดการณ์ หลังจากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3/2563 จีดีพีติดลบที่ 6.4% น้อยกว่าคาดการณ์ที่คาดว่าจะติดลบ 7-10% ส่วนปี 2564 คาดว่าจีดีพีจะกลับมาโตเป็นบวกได้ที่ระดับ 4-5%

 

อย่างไรก็ดี ในส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น คาดว่า จะกลับมาเต็ม 40 ล้านคนเหมือนภาวะปกติได้ ในอีก 4 ปี หรือปี 2567 ซึ่งการท่องเที่ยวจะใช้เวลานานกว่าเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวเร็วกว่า

 

นายอาคม กล่าวอีกว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างภาษี เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในโลกอนาคต โดยนำบทเรียนที่ได้จากโควิด-19 เช่น เรื่องเทคโนโลยี ธุรกิจโฮมดิลิเวอร์รี่ การช้อปปิ้งออนไลน์มาเป็นตัวเสริมเพื่อให้ไทยแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมที่ไฮเทคมากขึ้น รวมถึงต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่ทันสมัย รวมถึงการลงทุนในอีอีซีด้วย

 

“การปรับโครงสร้างภาษีเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถรองรับการใช้จ่ายในอนาคตได้ เพราะงบประมาณ 70% เป็นเรื่องรายจ่ายประจำ ตรงนี้ลดยาก มีทางเดียวคือการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการขยายฐานภาษี” นายอาคม กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง