อุทัยฯ ราคาปุ๋ยพุ่งลูกละ 2,380 บาท ร้านต้องแกะถุงชั่งกิโลขาย เหมือนช่วงต้มยำกุ้ง
เมื่อวันที่ 26 เมษายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ราคาขายปุ๋ยยูเรีย ที่เกษตรกรใช้ในการหว่านบำรุงนาข้าวและพืชผลทางการเกษตร ยังร้านขายสินค้าการเกษตร ในเขตเทศบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี พบว่าปัจจุบัน ราคาปุ๋ยยูเรียถูกปรับราคาสูงขึ้นมาเป็นเท่าตัว สูงสุดถึงกระสอบละ 2,380 บาท เพียงในระยะเวลา 2 เดือน 26 วัน เท่านั้น
ส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนในการทำนาปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ราคาขายข้าวเปลือกนั้นกลับต่ำลง อีกทั้ง ราคาปุ๋ย ยูเรียที่ปรับสูงขึ้นในครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อร้านค้าที่จำหน่ายปุ๋ยด้วยเช่นกัน หลังราคาพุ่งสูงขึ้นยอดขายก็ลดลงตามไปมาก ทำให้ร้านขายปุ๋ยนั้นต้องปรับตัวกระตุ้นยอดขาย ด้วยการชั่งกิโลปุ๋ยยูเรีย ทุกสูตรที่มีขายถุงละ 1 กิโลกรัม เพื่อให้การซื้อขายปุ๋ยยูเรียยังคงเดินหน้าต่อไปได้ อีกด้วย
โดยจากการสำรวจราคาปุ๋ยยูเรียทุกสูตรพบว่า ราคานั้นเริ่มปรับขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึง เดือน เมษายน นี้ รวมระยะเวลาเกือบ 3 เดือนพบว่า ราคาปุ๋ยยูเรีย กระสอบละ 50 กิโลกรัม มีการปรับราคาขึ้นไปสูงมากเกือบเท่าตัว โดยปุ๋ยยูเรีย
สูตร 46-0-0 ปัจจุบัน ขายลูกละ 1,700 จาก 630 บาท
สูตร 16-16-16 ลูกละ 1,980 บาท จาก 880 บาท
สูตร 15-15-15 ลูกละ 1,500 จาก 720 บาท
สูตร 8-24-24 ลูกละ 2,380 จาก 1,280 บาท
จากการสอบถาม นายสงกรานต์ พันธุเมฆ เจ้าของร้านขายปุ๋ย ไทยนิมิต 2 กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาปุ๋ยยูเรียปรับสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยราคานั้นเริ่มทยอยปรับขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมกราคม ต่อเนื่อง มาจนถึง เดือนเมษา ยน ด้วยราคาที่ปรับรวมแล้วสูงขึ้นมาเป็นเท่าตัว ทำให้ยอดขายที่ร้านนั้นพลอยลดลงตามไปด้วย เพราะเกษตรกร นั้นไม่มีกำลังซื้อ อีกทั้งราคาข้าวเปลือกที่ขายได้ในตอนนี้ก็ยังมีราคาแค่เพียง 7,000 บาท ทำให้ตอนนี้ทางร้านต้องปรับตัวในการขายปุ๋ยยูเรียทุกสูตรแบบใส่ถุงชั่งกิโลขาย ถุงละ 1 กิโลกรัมๆละ 40 บาท เพื่อให้ลูกค้าพอมีกำลังซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งตั้งแต่ขาย สินค้า การเกษตรมากว่า 19 ปี ถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่ผ่านช่วงวิกฤติ ต้มยำกุ้งครั้งที่ผ่านมา ที่ราคาปุ๋ยนั้นถูกปรับสูงขึ้นมามากขนาดนี้ อีกด้วย
ด้านเกษตรกรรายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้ปุ๋ยขึ้นราคาไปสูงมากจริงๆ ทำนาใน 1 ครั้ง ต้องซื้อปุ๋ยหว่านถึง 3 รอบ ทำให้ตอนนี้ต้องลดปริมาณปุ๋ยหว่านลง แต่เลิกซื้อปุ๋ยหว่านไม่ได้ เพราะถ้าไม่หว่านปุ๋ยบำรุง ข้าวก็ไม่ออกรวงดีเท่าที่ควร ทำได้แค่ลดปริมาณ ลงเพื่อให้การทำนานั้นไปได้รอดในช่วงนี้ อีกทั้งราคาข้าวเปลือก นั้นก็ยังต่ำลงมากอีกด้วย