หมอทวีศิลป์ แถลงขอโทษปมแอปฯ "หมอชนะ" ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

วันนี้ (8 ม.ค.64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ชี้แจงถึงกรณีที่เกิดความสับสนเข้าใจผิดจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.64) เกี่ยวกับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่มี ถือว่ามีความผิด ซึ่งภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแก้ไขข้อมูลว่า หากไม่ดาวน์โหลดไม่ถือว่ามีความผิด

นพ.ทวีศิลป์ แสดงความเสียใจและขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่า หมอชนะ เป็นเครื่องมือในการติดตามตัว เพื่อทำให้การสอบสวนโรคที่เคยมีความยากลำบาก สามารถทำได้ง่ายขึ้น เป็นเหมือนพาสปอร์ตที่เราต้องพกติดตัวไปต่างประเทศ เมื่อภาครัฐเห็นว่ามีการใช้แอปฯ ดังกล่าว ก็มั่นใจมากขึ้น

ส่วนกรณีที่มีการกำหนดบทลงโทษนั้น นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในกรณีผู้ติดเชื้อไม่สามารถให้ไทม์ไลน์ของตัวเองได้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีแอปฯ หมอชนะ ก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะจำไทม์ไลน์ไม่ได้จริงๆ เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบไทม์ไลน์และสอบสวนโรคจากแอปฯ หมอชนะได้ แต่ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อจงใจปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ของตัวเอง เมื่อขอดูแอปฯ หมอชนะแล้วพบว่าไม่ได้ติดตั้ง ทั้งที่ก็มีสมาร์ทโฟนที่สามารถดาวน์โหลดได้ มีการดาวน์โหลดแอปฯ อื่นๆมาใช้งานได้ ก็อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง จึงอยากขอความเห็นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฎิบัติหน้าที่ด้วย

ส่วนที่ตัวเองมีการสื่อสารผิดพลาดจนเกิดความเข้าใจผิด ก็พร้อมจะนำไปพิจารณาตัวเอง ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นโฆษก เป็นผู้สื่อสารกับประชาชนโดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีเรื่องที่น่าดีใจคือ มีการดาวน์โหลดแอปฯ หมอชนะเพิ่มขึ้น จากเมื่อวานนี้วันเดียว มียอดดาวน์โหลดสูงถึงกว่า 2 ล้านครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้มีการดาวน์โหลดเพียงแสนกว่าครั้งเท่านั้น จึงขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เข้าใจ และร่วมมือกันในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ซึ่งตัวเองก็สัญญาว่าจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีตำแหน่งที่ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม คือผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในแถบอีสานใต้ แต่ได้รับตำแหน่งโฆษก ศบค.เพิ่มขึ้นมา จากการแถลงข่าวที่ผ่านมา ที่มีการพูดถึงเรื่องภาระด้านภาษี ซึ่งเป็นการตัดต่อคำต่างๆ ให้บิดเบือนไปจากความจริง จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่า ให้ไม่ต้องรับเงินเดือน หรือให้เอาเงินเดือนมาให้ผู้ที่เดือดร้อน บางกลุ่มไปสืบค้นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งหรือเงินค่าประชุมว่าได้เท่าไร

นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงว่า การมาทำหน้าที่โฆษก ศบค.ไม่ได้รับเงินเพิ่มเติมหรือมีค่าประชุมแต่อย่างใด แต่เป็นการทำงานด้วยใจ เพราะตัวเองมีเงินเดือนอยู่แล้ว แม้ว่าในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 จะไม่สามารถไปหารายได้เสริมเหมือนก่อนได้ ซึ่งที่ออกมาพูดก็ไม่ได้ต้องการเรียกร้องขอความเห็นใจ เพียงแต่ขอชี้แจงเพราะมีประชาชนที่อยากทราบข้อเท็จจริง

นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า มีความภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานรับใช้ประชาชน ซึ่งหลักการทำงาน คือ ทำงานตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการและต้องทำให้ดีที่สุด แต่หน้าที่มีหลากหลายและตัวเองมาจากสายแพทย์ เมื่อมาทำหน้าที่นี้จึงต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ทั้งในด้านกฎหมาย ความมั่นคง ด้านโรคระบาดวิทยา ซึ่งไม่ตรงกับวิชาชีพของตัวเองที่เป็นจิตแพทย์ แต่ก็พยายามทำอย่างดีที่สุด

แต่แน่นอนว่าย่อมต้องมีข้อบกพร่อง ซึ่งตัวเองก็พยายามเรียนรู้ แต่สิ่งที่เกิดผลกระทบคือ มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล ว่าติดในอำนาจและโยงไปในเรื่องการเมือง ซึ่ง นพ.ทวีศิลป์ยืนยันว่า ไม่เคยคิดจะเดินในเส้นทางการเมือง คิดแต่เพียงทำหน้าที่ข้าราชการ ปฎิบัติงานตามนโยบายและทำเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่

นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า เสียงต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้ กระทบกับครอบครัวและชีวิตส่วนตัว จึงต้องสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง โดยน้อมนำคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชมาเป็นกำลังใจในการทำงาน และฝากกำลังใจไปยังประชาชนคนไทยทุกคน ให้ทุกคนร่วมมือกัน หากทุกคนช่วยกัน ก็เชื่อว่าจะฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปได้