BYD เตรียมแผนบุกแดนทะเลทราย ขยายตลาดในตะวันออกกลาง
บีวายดี (BYD) แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจีน กำลังรุกขยายตลาดเข้าสู่ประเทศแถบตะวันออกกลาง หลังแซงหน้าค่ายรถยนต์แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา อย่าง เทสลา (Tesla) กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ณ ไตรมาสที่ 4 ของปี 2023
ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ BYD ซึ่งได้จุดแข็งจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของจีน และการมีตลาดท้องถิ่นขนาดใหญ่ กำลังมุ่งหน้าไปที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอาหรับ เพื่อการขยายธุรกิจในตะวันออกกลาง
ซึ่งเป้าหมายในการเจาะไปที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็สืบเนื่องไปจากประเทศแห่งนี้ ยังมีดูไบ (Dubai) ซึ่งเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของโลก อีกทั้งยังขนานนามตัวเองว่าเป็น เมืองแห่งนวัตกรรม (City of innovation) อีกด้วย
โดยรายงานระบุว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8,900,000,000 บาท ในปี 2023 และคาดว่าจะทะลุ 370 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 13,200,000,000 บาท ในปี 2028 ทั้งนี้ อัด ฮวง (Ad Huang) ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท BYD ในตะวันออกกลางและแอฟริกา กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 20 - 30 และคาดว่าในปี 2025 สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 50
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งไปที่ความสัมพันธ์ทางการค้าที่กำลังเฟื่องฟูระหว่างจีนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการทำธุรกิจในประเทศ เช่น การไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับชาวจีน และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใส ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของบริษัทในภูมิภาค
รวมถึงบริษัทยังมองเห็นถึงบทบาทสำคัญของศูนย์นวัตกรรมจีน (China Innovation Center) ซึ่งเป็นโชว์รูมไฮเทคที่จะนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดจากบริษัทในจีน และเป็นพื้นที่จัดงาน จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการและงานแสดงสินค้า ว่าอาจจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บริษัทจีนสำรวจโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก reutersconnect, mfa, visitdubai, chinainnovationcentre