จ่อฟันผู้จัด เทศกาลสาดสี เชียงใหม่เรียกแจง ละเมิดมาตรการป้องกันโควิด

รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งชี้แจงด่วน เทศกาลสาดสี ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด เผยหากพบบกพร่องจะดำเนินการเอาผิด

กรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดเทศกาลสาดสี(HOLI Festival)ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของประเทศอินเดีย ในงานFINEDAY@Night Bazaar บริเวณไนท์บาซาร์ ย่านการค้ายามค่ำคืนชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่าเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเป็นการหย่อนยานมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 หรือไม่อย่างไรนั้น

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 64 นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าจากภาพการจัดงานที่ปรากฏทั่วไปจะเห็นว่ามาตรการต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

โดยจากการสอบถามผู้จัดงานเบื้องต้นได้รับคำชี้แจงว่าได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว แต่ภาพที่ปรากฏนั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่เป็นไปตามมาตรการ ที่ปกติแล้วตามแนวทางปฏิบัติจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ในส่วนของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับการมอบหมายจากผู้ว่าราชการเชียงใหม่ให้ทำหน้าที่ประธานได้มีการสั่งการไปแล้ว

ให้ผู้จัดงานและทางเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในการประชุมที่จะจัดขึ้นในวันที่31มี.ค.64 เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงและหลักฐานอย่างละเอียดรอบด้าน โดยอาจจะมีมติให้ดำเนินคดีทางกฎหมายในกรณีที่หากพบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันควบคุมโรค พร้อมย้ำว่าคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ตระหนักเข้มงวดเรื่องนี้อย่างยิ่ง

ด้านนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเทศบาลนครเชียงใหม่ และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบแล้ว พร้อมทั้ง เชิญให้ทางฝ่ายผู้จัดงานเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 31มี.ค.64 ซึ่งหาก การตรวจสอบ ข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีการกระทำ ที่เป็นการฝ่าฝืน มาตรการป้องกันควบคุมโรคแล้วจะต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น

ในกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนว่าถ้าหากไม่มีความเข้มงวดกวดขันแล้วอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดการเอาเยี่ยงอย่างและทำให้เกิดการควบคุมยากลำบาก ขณะที่การจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์นั้น มาตรการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่ สบค.กำหนด อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันควบคุมโรค โดยยังคงเรื่องส่งเสริมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไว้ เพราะหากเกิดการแพร่ระบาดของโรคขึ้นมาจะก่อให้เกิดความหายนะในทุกด้านตามมาทันที จึงจำเป็นต้องเข้มงวดมาตรการทุกอย่าง