ตร.ปทุมฯ รวบคนดูแลโต๊ะสนุ๊กเกอร์ อนาจารเด็กหญิง 8 ขวบ 2 คน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่สภ.คูคต พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบช.ภ.1 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ จำนวน 2 ราย ร้องเรียนว่านายบรรทม อุลิต หรือ เด๊ะ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 61/161 หมู่ 18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้หลอกพาเด็กหญิงทั้งสองคนไปทำอนาจารที่บ้านพักซอยลำลูกกา 23 ต.คูคต เป็นระยะเวลา 2-3 เดือน โดยเหตุเกิดที่ห้องพักหลังโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ภายในซอยลำลูกกา 23 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ์ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ได้มีเพื่อนบ้านของผู้เสียหายโทร.มาที่เพจ แจ้งว่ามีเด็กหญิงอายุ 8 ขวบถูกกระทำอนาจาร โดยทางพนักงานสอบสวนจะให้น้องทั้งสองคนไปตรวจร่างกายซึ่งมีสหวิชาชีพร่วมสอบว่าเกิดเหตุจริงหรือไม่ ถูกกระทำมาแล้วกี่ครั้ง ซึ่งเบื้องต้นทางพลเมืองดีได้พูดคุยกับเด็กทั้งสองคนแล้ว แต่ทางผู้ปกครองเด็กไม่กล้ามาแจ้งความเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

เมื่อทางเพจทราบเรื่อง ก็ได้ลงพื้นที่มาพบกับพลดีเมืองและได้มีการนำพ่อของเด็กมาพูดคุย เบื้องต้นพ่อเด็กทราบเรื่องว่าเด็กถูกกระทำจริงซึ่งตนได้ประสานไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี มาสอบปากคำเด็กที่สภ.คูคต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญพ่อแม่เด็กและตัวเด็กมาสอบปากคำที่โรงพัก

พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้นำตัวนายบรรทม ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่หน้าวัดปัญจทายิกาวาส ต.บึงคำพร้อย อ.ลูกกา จ.ปทุมธานี มาทำการสอบสวน ที่ห้องประชุมชั้นสอง

โดยใช้เวลาสอบสวนไม่นาน ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา และขอหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหากระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี , พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร , พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร

โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ เรากำลังสอบปากคำเพื่อหารายละเอียดเพื่อเชื่อมโยงกัน ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนรู้จักกันมาก่อนโดยเด็กเรียกผู้ใหญ่ว่าปู่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้น
จากการายงานของชุดสืบสวน ตอนนี้เด็กอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสภาพจิตใจ

ส่วนแม่ของเด็กหญิง 1 ในสอง กล่าวว่า น้องโดนล่วงละเมิดโดยหลอกให้เล่นโทรศัพท์ หลังทราบเรื่อง ตนไม่ยอม แต่ยอมรับเงินเพื่อให้เป็นหลักฐานว่าเขากระทำลูกเราจริง ก่อนที่จะยอมรับว่าเขาทำ เขายอมรับ ตั้งแต่แรกก็ไม่เคยไว้ใจเขา แต่มีคนเยอะเลยไม่คิดว่าเขาจะทำ โดยตนได้หารือกับผู้ปกครองเด็กอีกคนว่าจะเอายังไง ซึ่งหลังจากที่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ก็รู้สึกดีใจ แต่ก็ห่วงสุขภาพจิตลูกสาว และจริงๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะกลัวเขาไปเจอตอนโต อยากให้เขาลืมมันไป