กพท. สั่ง 'บ.การบินไทย-บ.แบ๊กส์บริการภาคพื้น' ระงับขนส่งสินค้าทางอากาศ

วันที่ 31 พฤษภาคม นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารคลังสินค้า ร่วมกับผู้บริหาร ผู้ประกอบการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ และเจ้าหน้าที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีความจำเป็นต้องปิดให้บริการคลังสินค้าที่ดำเนินการโดยบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แบ๊กส์บริการภาคพื้น จํากัด เป็นการชั่วคราว
ซึ่งส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางอากาศผ่านคลังสินค้าไม่สามารถดำเนินการได้ เบื้องต้นมีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ผู้ประกอบการที่ใช้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเกษตรและ OTOP การขนส่งเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงเอกสารเร่งด่วนทางการทูต เป็นต้น
ทั้งนี้การหยุดให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งด่วนให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แบ๊กส์บริการภาคพื้น จํากัด หยุดการดำเนินการรับจัดการขนส่งสินค้าในลักษณะคลังสินค้าให้แก่ผู้ดำเนินการเดินอากาศอื่น ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการยื่นขอใบรับรองควบคุม (Regulated Agent: RA) ตามข้อกำหนดของ กพท.ฉบับที่ 33 ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสินค้า และไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ ได้ทันตามที่กำหนด
ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) มิได้นิ่งนอนใจ และได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กพท. เพื่อหามาตรการรองรับมาโดยตลอด เบื้องต้น ทอท.จะเข้าไปดำเนินการให้บริการคลังสินค้าแทนทั้งสองบริษัท เป็นการชั่วคราว เมื่อได้รับความเห็นชอบจาก กพท.
เพื่อไม่ให้การขนส่งสินค้าทางอากาศหยุดชะงัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและอำนาจหน้าที่ต่างๆ โดยเฉพาะด้านการรักษาความปลอดภัยของสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ โดย กพท. ได้รับทราบข้อมูลความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้าทางอากาศแล้ว และจะเร่งพิจารณาภายใต้มาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุดต่ออากาศยานและผู้โดยสาร
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และจะเร่งดำเนินการเพื่อกลับมาเปิดให้บริการคลังสินค้าโดยเร็วที่สุดต่อไป