ตร.เปิดยุทธการ I2L AI  สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ลั่นเห็นผลใน 3 เดือน, เร่งล่าเครือข่าย “ก๊ก อาน”

พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผอ.ศปอส.ตร. และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ UNODC เผยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังตั้งฐานในกัมพูชา เมียนมา และ ลาว พร้อมใช้ไทยเป็นทางผ่านลักลอบแรงงาน และ หลอกเหยื่อข้ามชาติ ล่าสุดปฏิบัติการตัดไฟ อินเทอร์เน็ตในเมืองชเวโก๊กโก๋ (เมียนมา) ทำให้ช่วยผู้เสียหาย 36 สัญชาติ รวม  8,893  ราย แต่ยังพบกลุ่มหลบซ่อนทางใต้เมียวดี ส่วนกัมพูชาพบจุดปฏิบัติการแล้ว 52 แห่งใน 10  จังหวัด โดยเฉพาะปอยเปต และ แนวชายแดนเวียดนาม

เปิดแผนยุทธการ  “I2L AI” ใช้ 5 มาตรการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

1. ทำลายโครงสร้างพื้นฐาน  ตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตฐานปฏิบัติการ

2. ตัดเครือข่ายนำพา  ปิดเพจจัดหางาน บัญชีม้า คริปโต และเส้นทางข้ามแดน

3. บังคับใช้กฎหมาย  ยึดทรัพย์  เน้นเจ้าของอาคาร ผู้บงการ และ ผู้คุ้มกัน

4 .ใช้ AI ป้องกัน  สกัดการหลอกลวงผ่านไทยด้วยระบบอัจฉริยะ

5. ผนึกประชาคมโลก  ตั้ง War Room ที่ ตร. ไทย ร่วม UNODC, INTERPOL, FBI แลกเปลี่ยนข้อมูลทันที คาดเห็นผลชัดภายใน  3  เดือน

ความคืบหน้าคดีเครือข่าย “ก๊ก อาน”

พล.ต.อ.ธัชชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่าย "ก๊ก อาน" ซึ่งจากการเข้าค้น 20 จุดใน 3 จังหวัด (กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี) สามารถอายัดเงินสด 27 ล้านบาท รถยนต์หรู และเอกสารสำคัญ รวมมูลค่ายึดทรัพย์กว่า 1,100 ล้านบาท พร้อมเตรียมออกหมายจับผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด และจะดำเนินการยึดทรัพย์เพิ่มเติมทั้งในและนอกประเทศ

พล.ต.อ.ธัชชัย ยืนยันว่า ตำรวจไทยมีพยานหลักฐานชัดเจน รวมถึงหลักฐานจาก FBI ประกอบการออกหมายศาล เชื่อได้ว่า ก๊ก อาน เป็นเจ้าของอาคารหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวในประเทศไทย และอยู่ระหว่างการประสาน INTERPOL เพื่อออกหมายแดงและติดตามจับกุมตัว ส่วนกรณีการมีส่วนเกี่ยวข้องของข้าราชการไทย หรือความสัมพันธ์ของ ก๊ก อาน กับนักการเมืองในประเทศไทยนั้น ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล

สำหรับบริษัท ฮุยวัน ที่เป็นบริษัทแลกเปลี่ยนเงินคริปโต และถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้บริการ พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่าถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำในฐานะบริษัทที่ใช้ในการฟอกเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการทำคดีของตำรวจไทย

จากการหารือกับ INTERPOL เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีการวางแผนยุทธศาสตร์ร่วมกันในการจัดการปัญหานี้ โดย 196 ประเทศสมาชิกทั่วโลกจะทำงานร่วมกันในการปราบปราม

และ เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่กัมพูชาต้องการกวาดล้างเช่นกัน และแรงกดดันทางสังคมจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการปราบปรามอย่างจริงจัง

สุดท้าย พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า การที่ประชาชนไทยยังคงถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขที่ปัจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยต่อกระบวนการนี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากคนไทยเช่นกัน