ฟิลิปปินส์ สังเวยโควิด-19 วันเดียวกว่า 160 ราย!
นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมใน 1 วันอีกถึง 2,124 คน ทำให้รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 56,259 คน และเสียชีวิตรวมกว่า 1,532 คนแล้ว ขณะที่มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีกมากกว่า 12,000 คน ที่ต้องจับตา
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศฟิลิปปินส์ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เท่านับตั้งแต่ที่รัฐบาลประกาศผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่มียาวนาน 3 เดือน และนับเป็นการล็อกดาวน์ที่เข้มข้นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะได้ เปิดร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า แต่เป็นไปอย่างจำกัดเพื่อหวังให้เศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้
แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ของประเทศที่ต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก เช่น ที่เมืองเซบู ที่พบว่ากลายเป็น hot spot ของประเทศ เพราะพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 5,000 คน คิดเป็น 1 ใน 10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ
ขณะที่โรงพยาบาลในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ ถูกใช้งานไปแล้วมากกว่า 70% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงขึ้นจาก 5 วันก่อนหน้านั้น ที่มีผู้ใช้บริการราว 48% เท่านั้น นั่นหมายความว่าจำนวนผู้ติดเชื้อได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ส่วนเหตุผลที่พบผู้เสียชีวิตมากถึง 162 คนในรอบ 24 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า มันไม่ใช่เป็นการเสียชีวิตในรอบ 24 ชั่วโมง แต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลที่ผ่านๆมา ที่อาจพบว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นทำให้มีการเก็บข้อมูลที่ดีขึ้น และเป็นข้อมูลของผู้เสียชีวิตตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาแต่เพิ่งได้รับการบันทึกลงในรายงานของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้กลายเป็นตัวเลขที่ดูสูงมากจนน่าตกใจ และคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในไม่กี่วันนี้จะสูงขึ้นอีก เนื่องจากการเก็บข้อมูลที่ดีขึ้น
โดยยืนยันว่า ตัวเลข 162 นั้น แบ่งเป็น 51 คน ในเดือนนี้ , 18 คน จากสัปดาห์ที่แล้ว , 90 คน ของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และอีก 20 คน จากเมื่อเดือนพฤษภาคม
มาเรีย โรซาริโอ เวอร์เกียรี ปลัดกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ บอกว่า มีอย่างน้อย 5 ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นมาก คือ
1. ตรวจเชื้อเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ได้เพิ่มการตรวจหาเชื้อขขึ้นอย่างมาก เป็น 17,000-22,500 คน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และก็ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขื้น แต่แน่นอนว่าก็เป็นอีกตัวบ่งชี้ว่าเป็นเพราะ “ไวรัสมันระบาดเป็นวงกว้างมากแล้ว” ซึ่งจอนถึงตอนนี้ได้ตรวจหาเชื้อแล้วมากกว่า 9 แสน 8 หมื่นคน แต่ก็นับว่าน้อยกว่า 1% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศกว่า 107 ล้านคน
2. การพบปะและติดต่อใกล้ชิดมากขึ้น เพราะหลังจากที่ผ่อนปรนล็อกดาวน์ไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ประชาชนก็เริ่มการ์ดตก และไปมาหาสู่ พบปะกันมากขึ้น
3. ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความสะอาด และเมื่อการ์ดตก การรักษาความสะอาด, การหมั่นล้างมือ ก็ลดน้อยลงด้วย อีกทั้งประชาชนยังหละหลวมเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัย ทำให้เกิดความเสี่ยงในการรับเชื้อจากที่สาธารณะมากขึ้น
4. การแพร่เชื้อในชุมชนที่ยังสูงอยู่ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลพวงจากทั้ง 3 ข้อข้างบน ที่ทำให้อัตรากรแพร่เชื้อในชุมชนยังเกิดเป็นวงกว้าง โดยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีอย่างน้อย 488 คลัสเตอร์ที่กระทรวงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เช่น ในระบบการขนส่งทางราง, บริษัทใจกลางกรุงมะนิลา ที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น
5. แรงงานกลับประเทศเยอะมาก ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ส่งออกแรงงานเยอะมาก ดังนั้น การที่แรงงานเดินทางกลับบ้านจำนวนันบแสนคน ก็เป็นการนำ “เชื้อโรค” กลับเข้ามาในประเทศได้ครั้งละไม่น้อยเลยทีเดียวและแรงงานเหล่านี้ยังประสบปัญหาการตกงานในช่วงโควิด-19 นี้ด้วย
ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่า จะไม่ให้เปิดโรงเรียนจนกว่าจะมีวัคซีนแต่ก็ต้องประกาศเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจ โดยบอกว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่น แต่ต้องยอมเปิดเศรษฐกิจ เพราะหากเราไม่เปิดจริงอยู่ที่เราจะมีชีวิตรอดในตอนนี้ แต่ท้ายที่สุดเราก็จะตายเพราะไม่มีงานทำ เราต้องพยายามถ่วงสมดุลมันให้ได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลุ้น! ออสเตรเลียทดลอง "วัคซีนโควิด-19" ในคนแล้ว
- ทั่วโลกอ่วม! ยอดติดเชื้อ "โควิด" ทะลุ 13 ล้านรายแล้ว
- ออสเตรเลียลดจำนวนพลเมืองกลับประเทศสกัดโควิด-19
- ดูไว้เป็นบทเรียน! ทำไมออสเตรเลียการ์ดตก ยอดติดโควิด-19 พุ่ง
เกาะติดข่าวที่นี่
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline