6 วัน “เศรษฐา” เยือนจีน-ซาอุฯ เจาะลึกหัวข้อหารือ "สี-ปูติน"

- ความสำคัญการประชุม BRF ครั้งที่ 3
ในวันที่ 17 ต.ค. 66 จะมีการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบ และเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3
นี่คือเวทีการประชุมระดับผู้นำที่เป็นโอกาสสำคัญที่สุดด้านการทูตระหว่างประเทศที่จีนเป็นเจ้าภาพ มีตัวแทนจากกว่า 140 ประเทศ ใน 5 ทวีป และกว่า 30 องค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม
จะมีการร่างพิมพ์เขียวขยายความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ผ่านโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบต่างๆ เช่น ถนน รถไฟ โรงไฟฟ้า
- โอกาสสำคัญหารือเอกชนยักษ์ใหญ่จีน
18 ต.ค. 66 พบเอกชน นักธุรกิจของจีน กว่า 10 บริษัท ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการให้มาลงทุนในไทย อาทิ เสี่ยวมี่ บริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาลีบาบา อีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก อินเทอร์เน็ต เอไอและเทคโนโลยี หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคม และเทนเซ็นต์ ผู้ให้บริการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสำหรับองค์กร
- หารือ 2 ผู้นำโลก “สี-ปูติน”
19 ต.ค. 66 นายกรัฐมนตรี พบปะ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน หัวข้อหารือเน้นเรื่องการเชื่อมความสัมพันธ์ 2 ประเทศ กระชับความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์รอบด้าน สร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดด้านการค้าและการลงทุน จะมีการหารือเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปได้
โดยจะได้หารือทวิภาคีกับ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังจะได้หารือทวิภาคีกับ นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า หารือจะเป็นการแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อทั้งสองประเทศ เพื่อจะได้ไปเจรจาหลายๆ เรื่องได้ดีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรีเพิ่งจะอนุมัติ เห็นชอบยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้ชาวรัสเซีย และให้อยู่ในไทยได้ถึง 90 วัน เป็นกรณีพิเศษ และเป็นการชั่วคราว เริ่ม 1 พ.ย. 2566 - 30 เม.ย. 2567
- ภารกิจในซาอุดีอาระเบีย
20 ต.ค. 66 นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-Gulf Cooperation Council Summit) ที่ประกอบด้วยบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
มีกำหนด เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย เพื่อเปิดเจรจาทางการค้า โดยเฉพาะอาหารจากประเทศไทย การช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล
โดยจะได้หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และพบปะภาคเอกชนซาอุดีอาระเบีย จำนวน 3 บริษัท เรื่องการลงทุนในไทยด้วย
นายกรัฐมนตรียังบอกก่อนเดินทางด้วยว่า นอกจากเรื่องการค้าและทางการทูตแล้ว การได้พบผู้นำหลายประเทศ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยกันเรื่องการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศทุกคนให้ความสำคัญ และอยากให้ทุกอย่างจบได้ด้วยดี