ยอดผลิตรถยนต์ เม.ย. ต่ำสุดรอบ 44 เดือน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษก กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน 2568 ยอดผลิตรถยนต์ทั้งหมดอยู่ที่ 104,250 คัน ลดลงร้อยละ 0.40 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะผลิตลดงไม่มากแต่เป็นยอดผลิตที่ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน
อย่างไรก็ดีจากตัวเลขสถิติพบว่าผลิตลดลงไม่มาก เพราะมีการผลิตรถยนต์นั่งและรถ SUV ไฟฟ้าทั้ง BEV PHEV และ HEV ในประเทศมากขึ้นเพิ่มขึ้น โดย BEV ผลิต 4,764 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 639.75// PHEV 1,031 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 319.11 //และ HEV 18,581 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.31 โดยเดือนเมษายน ไทยส่งออกรถยนต์นั่ง BEV ได้เป็นเดือนแรกจำนวน 660 คัน
ขณะที่รถยนต์นั่งสันดาปภายในผลิตลดลงร้อยละ 33.60 เพราะผลิตรถยนต์นั่งส่งออกลดลงถึงร้อยละ 36.93 เนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์บางรุ่น //รถกระบะยังคงผลิตลดลงร้อยละ 3.06 ตามยอดขายรถกระบะในประเทศที่ยังคงลดลงร้อยละ 22.25
ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – เมษายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 456,749 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2567 ร้อยละ 11.96
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนเมษายนที่ผ่านมามีจำนวน 47,193 คัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 15.42 แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 0.97 จากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่รถกระบะและรถ PPV ยังคงขายลดลง จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ
โดยพบว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์ เพิ่มมาที่ร้อยละ 50 ส่วนใหญ่ยังเป็นรถกระบะ แม้ว่าจีดีพี ไตรมาส 1 ปี 2568 จะโตถึงร้อยละ 3.1 แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากหลายปัจจัย ส่งผลให้ขาดกำลังซื้อ ประชาชนระวังการจับจ่ายใช้สอย หากกระตุ้นภาคการผลิตให้บวกขึ้นมาได้ กำลังซื้อของคนก็จะเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจในประเทศก็จะเป็นขาขึ้น
นายสุรพงษ์ ระบุว่าช่วงกลางปีนี้น่าจะมีการทบทวนปรับเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งปีนี้ในช่วงกลางปี เนื่องจากขอเวลาดูความชัดเจนเรื่องการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ แต่คิดว่าสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงที่ต้องจับตาดูต่อไปอีก 2-3 ปี จึงจะบอกได้ว่าพ้นจากวิกฤตหรือไม่