หนุ่มใหญ่ร่วม “โคโรนาปาร์ตี้” หวังติดเชื้อสร้างภูมิ แต่ป่วยสาหัส-สังเวยไวรัส
หนุ่มใหญ่ร่วม “โคโรนาปาร์ตี้” - วันที่ 23 พ.ย. เดลีเมล์ รายงานกระแสวิจารณ์กลุ่มต่อต้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งลักลอบจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พบปะผู้คนจำนวนมาก เพราะต้องการติดไวรัสมรณะสร้างภูมิต้านทานแทนที่จะกระตุ้นภูมิด้วยวัคซีน
สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม เพราะเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ต้องเสียเวลามาดูแลรักษา หนำซ้ำยังเพิ่มอัตราการป่วยในประเทศด้วย
รายงานระบุว่างานเลี้ยง “โคโรนาปาร์ตี้” ของกลุ่มคนต้านวัคซีนที่จัดขึ้นด้วยหวังว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเซาท์ทีโรล ทางตอนเหนือของอิตาลี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชายชาวออสเตรีย อายุ 55 ปี ได้รับเชื้อ และป่วยรุนแรงจนเสียชีวิต
ขณะเดียวกันยังพบผู้ป่วยอย่างน้อย 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน ซึ่งทั้งหมดมีอาการหนักต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และ 2 ใน 3 คนถูกย้ายไปแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู)
ด้านหน่วยงานสาธารณสุขของอิตาลีกล่าวเชื่อว่าที่คนต้านวัคซีนต้องการติดโควิด-19 น่าจะเป็นเพราะอยากได้บัตรผ่าน “กรีนพาส” ซึ่งจำเป็นต้องใช้สำหรับผู้ที่ทำงานในอิตาลี และคาดว่าชายชาวออสเตรียที่เสียชีวิตนั้นทำงานในพื้นที่ชายแดนอิตาลี เลยจำเป็นต้องมีบัตรผ่านกรีนพาส
บุคคลที่จะมีกรีนพาสได้ต้องเป็นผู้ฉีดวัคซีนในช่วงเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา หรือหายจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กรีนพาสยังออกให้ผู้ทที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลเป็นลบ แต่บัตรผ่านประเภทนี้มีอายุเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งเพื่อให้ได้กรีนพาสซึ่งราคาค่าตรวจที่ 15 ยูโร หรือเกือบ 560 บาทต่อ 1 ครั้ง
ด้าน นายแพทริก ฟรานโซนี ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มต่อต้านโควิดในเมืองโบลซาโน จังหวัดเซาท์ทีโรล กล่าวว่าการจงใจแพร่เชื้อโควิด-19 ถือเป็นอาชญากรรมภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เป็นอย่างน้อย
“เราได้รับแจ้งจากหมอหลายคนว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพราะจงใจติดเชื้อ พวกเขาอยากได้แอนติบอดีเพื่อทำกรีนพาส แต่การติดเชื้อมีผลลัพธ์ระยะยาวและแม้แต่คนอายุน้อยๆ ก็ยังสาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาล” นายฟรานโซนีกล่าว
และว่าเด็กที่ป่วยโควิดจากโคโรนาปาร์ตีโดนพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีนบังคับให้เข้าร่วมงาน ส่วนใหญ่จัดในพื้นที่ข้างนอก เช่น คลับบาร์ หรือที่ๆ ไม่บังคับใช้กรีนพาส จากนั้นคนในกลุ่มงานเลี้ยงจะกอด จูบ หรือดื่มเครื่องดื่มจากผู้ติดเชื้อและเวียนดื่มแก้วเดียวกันไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันบางกลุ่มเลือกจัดปาร์ตีรอบๆ เตียงผู้ป่วยโควิดและสูดลมหายใจที่มีการปนเปื้อนไวรัส