ปัตตานีฉุดไม่อยู่ ติดเชื้อพุ่งอีก 787 คน จังหวัดเร่งตรวจ-ฉีดวัคซีน ปอเนาะติดรวด 79 ราย รอเยียวยา
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เริ่มควบคุมไม่อยู่ โดยยอดติดเชื้อวานนี้ พุ่งสูงขึ้นอีก พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว รายใหม่ 159 คน ผู้ติดเชื้อเข้าข่าเอทีเค 628 คน รวม 787 คน แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต ทำให้ขณะนี้มียอดติดเชื้อสะสม 1,786 คน รักษาหาย 706 คน และเสียชีวิตสะสม 10 คน จังหวัดปัตตานีต้องเปิดบริการตรวจเชื้อ และเปิด walk in ฉีดวัคซีนเข็ม 1-4 ให้ประชาชนหลายพื้นที่
เช่นเดียวกับ ถ.รามโกมุท ต.บานา อ.เมืองปัตตานี มีประชาชนเดินทางมาตรวจเชื้ออย่างไม่ขาดสาย และยังคงพบผู้มีผลเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่เริ่มมีความกังวลเป็นอย่างมากในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกนี้ ประชาชนต่างเริ่มตื่นตระหนกอีกรอบ
ขณะที่ต้นต่อยังเป็นคลัสเตอร์โรงเรียน และสถาบันปอเนาะ สอนศาสนา โดยพบว่าทั้งนักเรียนและครูติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก ก่อนได้แพร่ไปยังส่วนอื่นๆเป็นวงกว้าง ส่งผลให้โรงเรียนดังกล่าวต้องเปลี่ยนเป็น บับเบิลแอนด์ซีล คนนอกห้ามเข้า คนในห้ามออก เช่นที่โรงเรียนดารุลบารอกะห์ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากทางโรงเรียนได้เปิดรับนักเรียนประจำ มาที่โรงเรียนเมื่อ 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา พร้อมทั้งวางมาตรการอย่างดี เมื่อวานนี้ ทางครู ได้ให้เด็กๆ ตรวจเอทีเคจากจำนวนนักเรียนประจำทั้งหมด 199 คน มีผู้พบเชื้อบวก 79 ราย ส่งโรงพยาบาลสนาม ทำให้ทางโรงเรียน้องวางมาตรการและปิด รร.อย่างไม่มีกำหนด ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อ พร้อมหาทางช่วยเหลือเยียวยา ด้านอาหาร ยา และอื่นๆ พร้อมเตรียมจัดทำเป็นสถานที่พยาบาลชั่วคราว แยกกักตัวผู้เสี่ยงป่วยทันที
นอกจากนี้ ยังมีการแพร่เชื้อของผู้ที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวที่ต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด รวมไปถึงในค่ายทหารในอำเภอหนองจิก ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารติดเชื้อเป็นส่วนใหญ่ จนขยายมาแพร่เชื้อในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเป็นวงกว้าง
ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้ออยู่ในรูปแบบ Home Isolation กว่า 75 เปอร์เซ็น มีแพทย์ค่อยติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสนามกีฬา อบจ.ปัตตานี ก็มีผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ที่รักษาอยู่ ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มสีแดงและเหลือง แพทย์มีการดูแลจ่ายยารักษา และต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามจังหวัดปัตตานี ได้เน้นย้ำประชาชนให้ปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ห้ามให้มีการรวมกลุ่มเป็นจำนวนมาก ก่อนออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือให้สะอาด และทีสำคัญหากพบอยู่ในกลุ่มเสียง จะต้องตรวจเชื้อและกักตัว เพื่อไม่ให้มีการขยายของเชื้อไปมากกว่านี้