คนร้ายกดระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย จนท.คาดกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่
คนร้ายกดระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย จนท.คาดกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่
ระเบิดปัตตานี – เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงาน พ.ต.ท.วสัน รักชาติพานิช สารวัตรใหญ่ สภ.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายชนบทระหว่าง บ.ท่ายาลอ – บ.ปากาจีนอ ม.4 บ.ท่ายาลอ ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง จุดระเบิดอยู่บริเวณริมถนน พบสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่ว และพบกองเลือดจำนวนมากอยู่ที่พื้น ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองจิก ทราบชื่อ อส.ทพ.เอ็มลุกมาน หะยีสะแม อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่ร้อย ทพ.4305 ฉก.43 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ศีรษะ และลำตัว อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบ เศษถังแก๊สปิกนิก แผงวงจรวิทยุสื่อสาร และเหล็กเส้นตัดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ทพ.4305 ฉก.43 จำนวน 12 นาย ลาดตระเวนด้วยเท้าเพื่อดูแลความปลอดภัยครูตามเส้นทาง โดยเว้นระยะห่างช่วงตัวกันประมาณ 10 เมตร เพื่อความปลอดภัย ปรากฏว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจะมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบกลุ่ม และจำนวน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิก นำมาวางบริเวณริมถนน โดยนำเอาเศษขยะมาทับไว้เพื่อปิดบัง เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้กดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร ทำให้แรงระเบิดถูก อส.ทพ.เอ็มลุกมาน ซึ่งอยู่ใกล้จุดระเบิดพอดี ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ที่ต้องการก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อสร้างสถานการณ์
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์ และความคืบหน้าของการก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ โดย มี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผลสรุปการก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่แล้วหลายครั้ง โดยมีพฤติกรรม คอยสังเกต และเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดนี้ เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยเส้นทางให้กับครูตามเส้นทางนี้อยู่เป็นประจำ ทำให้คนร้ายรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ตามเส้นทางใดบ้าง จึงได้ฉวยโอกาส และหาจังหวะเข้าก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ โดยการก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิ๊ค น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม นำมาวางไว้ที่ริมถนน โดยเป็นการวางแบบเร่งด่วน ก่อนหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่จะเดินมาถึงเพียงไม่กี่นาที โดยนำระเบิดมาใส่ไว้ในถุงขยะสีดำเพื่อปิดบังเจ้าหน้าที่ ก่อนที่คนร้ายจะกดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร ทำให้แรงระเบิดเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ อส.ทพ.เอ็มลุกมาน เสียชีวิตดังกล่าว
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส มีความคล้ายคลึงกัน เป็นการวางระเบิดชุด รปภ.ครู ซึ่งเป็นชุดของเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตทั้ง 2 จุด ในที่เกิดเหตุตรวจเจอพยานหลักฐาน พอสมควร ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการดูแลความปลอดภัยครู ยังต้องดูแลอย่างเข้มข้น ถึงแม้จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ตาม ส่วนจะเกี่ยวข้องกับวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนเต็มระบบหรือไม่นั้น เป็นโอกาสที่กลุ่มคนร้ายจะฉวยโอกาสก่อเหตุ เนื่องจากชุด รปภ.ครูมีเส้นทางดูแลอย่างชัดเจน ที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแลเป็นประจำ แต่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้รถ ไม่ใช้จักรยานยนต์ พยายามย้ายจุดตลอดเวลา แต่ครั้งนี้เป็นการวางระเบิดแบบเร่งด่วน ทำให้ยากต่อการเฝ้าระวัง
“ส่วนที่ว่าวันนี้ตรงกับการหายตัวของ ฮัจยีสุหลง และมีการก่อเหตุใน 2 จังหวัดนั้น มองว่าคนร้ายมีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะเข้าก่อเหตุ ถึงแม้ว่าจะเป็นวันเชิงสัญลักษณ์หรือไม่ ถ้าคนร้ายมีโอกาส ก็ก่อเหตุได้ ซึ่งในเดือนนี้มีหลายๆ วันที่ต้องมีการระวังป้องกัน ส่วนการระเบิดทั้ง 2 จังหวัด จะเชื่อมโยงของคนร้ายหรือไม่นั้น คงไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับผู้ที่ลงมือก่อเหตุ แต่เชื่อว่ามีการสั่งการให้มีการก่อเหตุพร้อมกัน