MCคลายล็อกดันยอดขายโต เล็งจับมือORเปิดสาขาในปั๊ม
ทันหุ้น –MC มั่นใจรายได้งวดปี 2564/2565 เติบโตได้ 7-8% และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ถูกกระทบจากโควิด เชื่อยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อไตรมาสหลังคลายล็อกดาวน์ ขณะที่คุมต้นทุนได้ดีดันมาร์จิ้นเพิ่มสูงขึ้น แถมตุนเงินสดในมืออีกกว่า 1.8 พันล้านบาท ลุยขยายสาขาใหม่ รวม 22 สาขา เล็งจับมือพันธมิตรกลุ่มปตท. ขยายสาขา Mc Outlet ในปั๊มน้ำมัน
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้งวดปี 2564/2565 (ก.ค.64-มิ.ย.65) จะเติบโตได้ 7-8% และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้ว่าทิศทางรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของงวดปีนี้จะปรับตัวลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรงส่งผลให้ภาครัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่กระทบยอดขายของบริษัท
ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีการกระจายการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทเชื่อว่ายอดขายจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อไตรมาส ชดเชยช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้
*ลดต้นทุนดันมาร์จิ้น
ทั้งนี้ยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับสูง จากการเดินเกมกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะเจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย, สัดส่วนการขายสินค้า รวมไปถึงการบริหารช่องทางจัดจำหน่ายได้สอดคล้องเหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาอย่างลงตัว ภายใต้การบริหารจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของภาครัฐที่มีนโยบายและความเข้มข้นแตกต่างกัน
ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ยังคงอยู่ระดับสูง 59.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 57.8% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นจาก 12.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 13.7% จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี โดยสามารถรักษาอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ไว้ได้ในระดับใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อนที่ราว 43%
*ตุนเงินสดกว่า 1.8 พันล.
นอกจากนี้ บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน โดย ณ งวดสิ้นปีบัญชี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีเงินสดในมือกว่า 1,864 ล้านบาท สามารถแสวงหาโอกาสในการเติบโตได้เพิ่มขึ้น รวมถึงยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากดูสถิติในอดีตที่ผ่านมานับจากปี 2557 ถึงปัจจุบันพบว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นได้รับอยู่ในระดับ 5-6% ต่อเนื่องทุกปี และจ่ายปันผลสูงกว่านโยบายที่ตั้งไว้ หรือเฉลี่ยจ่ายประมาณ 90% ของกำไรสุทธิ โดยปีล่าสุดจ่ายในอัตรา 98.1% ของกำไรสุทธิสูงกว่านโยบายที่จะจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ โดยงวดครึ่งปีหลังปีบัญชี 2564 จะจ่ายผู้ถือหุ้นอีกหุ้นละ 0.20 บาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะใช้กลยุทธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านช่องทางมาร์เก็ตเพลสและพันธมิตรออนไลน์ ทั้ง Shopee, Lazada, และ JD CENTRAL เป็นต้น สำหรับช่องทางโซเชียลมีเดียก็แข็งแรงเช่นกัน เช่น Facebook Page Mc Jeans มีผู้ติดตามประมาณ 1 ล้านคน โดยในอนาคตคาดหวังว่ายอดขายจากช่องทางออนไลน์จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 15% ของยอดขายรวมทั้งหมดของบริษัทจากปีก่อนอยู่ที่ 389 ล้านบาท คิดเป็น 12%
*ลุยเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง
ด้านนายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี MC กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีบัญชี 2564/2565 บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 80 ล้านบาท โดยจะใช้ดำเนินการขยายทั้งธุรกิจออนไลน์และธุรกิจออฟไลน์ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของธุรกิจออนไลน์ใกล้เคียง15% ตามเป้าที่วางไว้ รวมทั้งมีแผนเปิด สาขาใหม่ รวม 22 สาขา ประกอบด้วย Mc Outlet 15 แห่ง SHOP 4 แห่งและเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า 3 เคาน์เตอร์ ขณะที่ในอนาคตอีก 2 ปี ข้างหน้าบริษัทวางแผนจะใช้เงินประมาณ 400 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ใน 3 ปีข้างหน้าว่าจะสามารถเติบโตได้ในตัวเลข 2 หลัก ด้วยการขยายการเติบโตในทุกด้าน โดยบริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนจับมือกับพันธมิตร ในการขยายสาขา Mc Outlet ในสถานีบริการน้ำมันต่างๆของ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) โดยในวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะมีการเปิดตัว Mc Outlet สาขาใหม่ที่วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มอีก 1 แห่ง โดยมีเป้าหมายคือกลุ่มนักท่องเที่ยวและรองรับกำลังซื้อช่วงหลังเปิดเมือง ซึ่งมองว่าการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นแนวทางที่ดีในการขยายธุรกิจของบริษัท