7 วิธีออมเงินง่าย ๆ ฉบับ มนุษย์เงินเดือน ช้อปเก่ง

การออมเงิน เป็นวิธีเบื้องต้นของคนที่อยากจะมีเงินก้อน เป็นวิธีที่ง่ายแต่เชื่อว่าใครหลายคนน่าจะทำยาก เพราะต้องรักษาวินัยขั้นสุด และยังต้องต่อสู้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ราคาข้าวของ น้ำมัน พลังงานที่แพงขึ้น เพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่ายในเกือบจะทุกเรื่อง ดังนั้นการจะเก็บหอมรอมริบดูจะเป็นเรื่องยากในยุคนี้ 

ยิ่งใครที่เก็บเงินไม่เก่ง เก็บเงินไม่อยู่เอาซะเลย แต่อยากมีเงินก้อน วันนี้ TNN ONLINE มีเทคนิคดีๆที่มีโอกาสสำเร็จสูงมาฝากกัน 

1. เก็บก่อนตั้งแต่ต้นเดือน หรือเก็บก่อนใช้ 

เหมาะสำหรับ มนุษย์เงินเดือน แน่นอน ยกตัวอย่างเช่นถ้า เงินเดือน 15,000 ให้กันเงินไว้ 1,500 หรือคิดเป็น 10% จากเงินเดือน  จากนั้น เงินเหลือเท่าไหร่ ค่อยหักลบหนี้สิน และรายจ่ายคงที่ (Fixed Cost) ในแต่ละเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ แล้วที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน วิธีนี้อาจจะฟังดูยากสำหรับคนที่มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ถ้ากันเงินไว้ก่อน จะมีเงินเก็บที่แน่นอนในทุก ๆ เดือน อย่างน้อย ๆ ก็ได้เดือนละ 1,500 บาท ตกปีหนึ่งก็ได้มา 18,000 บาทแล้วนะเออ 

 2. เปิดบัญชีฝากประจำ

บัญชีฝากประจำ คือ ต้องฝากเงินในจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งตามเงื่อนไขของธนาคารเงินจำนวนนี้จะไม่สามารถถอนออกก่อนกำหนดเวลาได้ รวมทั้งยังมีระยะเวลาของการฝากประจำด้วย จะมีทั้งแบบระยะสั้น 3 เดือน – 1 ปี และแบบระยะยาว 2-3 ปี ใครที่เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้ลองออมเงินด้วยวิธีนี้ดู ทั้งได้เงินออม ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย เป็นการฝึกวินัยการออมไปโดยปริยายด้วย 

3. หักบัญชีอัตโนมัติ

เป็นอีกวิธีที่เก็บเงินได้แน่นอน เพราะการตั้งหักบัญชีอัตโนมัติจะทำให้เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและตรงต่อเวลา อย่างเช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าโทรศัพท์ และค่างวดที่ฝากประจำต่างๆ ซึ่งการที่เราสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ตรงเวลา นอกจากจะไม่โดนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมชำระล่าช้าแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือให้กับตัวเราเอง

 ภาพ : TNN ONLINE

4. เก็บแบงค์ 50 ให้หมด

เชื่อว่าเป็นวิธีดั้งเดิม สุดคลาสสิคเลยก็ว่าได้ เพราะหลายคนอาจจะเคยใช้วิธีนี้แล้วได้ผล ซึ่งแบงค์ 50 ค่อนข้างจะหายาก เป็น Rare Item เพราะมีจำนวนน้อบกว่าแบงค์อื่นๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน  การจำกัดตัวเองว่าถ้าเจอแบงค์ 50 แล้วห้ามใช้น่าจะไม่กระทบกับการใช้จ่ายอื่นๆมากนัก   การเก็บสะสมเอาไว้เรื่อยๆ รู้ตัวอีกที แบงค์นั้นก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เลย 

5.เงินทอนเอามาหยอดกระปุก

ในชีวิตประจำวัน เชื่อว่ามีหลายๆคนไม่ค่อยพกเหรียญ แต่มักจะได้ทอนกลับมาอยู่เสมอ งั้นลองหากระปุกน่ารักๆ หรือออมสินเอามาไว้หยอดเงินเศษเหรียญในแต่ละวันดู และหมั่นสำรวจกระเป๋าสตางค์ของเราว่า มีเศษเหรียญอยู่บ้างไหม เป็นการเคลียร์พื้นที่ให้กับกระเป๋าไปในตัว

6. ช้อปไปเท่าไหร่ ออมคืนเท่านั้น

ข้อนี้เป็นการปรับนิสัยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของเราได้ดีเลยทีเดียว เหมือนเป็นการ “ยืมเงินตัวเองออกมาใช้ก่อน” แล้วคืนให้ทีหลัง ไม่ว่าจะช้อปปิงไปเท่าไหร่ ให้จดไว้ เป็นการฝีกทำบัญชีรายรับรายจ่ายไปในตัว  เมื่อรู้ว่าเราจ่ายไปเท่าไหร่ ก็เอามาเก็บคืนเท่าที่จ่ายไป อาจจะกำหนดว่า "ต้นเดือนเงินเดือนออก จะเอามาคืนนะ"  

แม้จะเป็นเงินตัวเอง ก็ห้ามลืมคืน คล้ายๆกับการจ่ายบัตรเครดิตที่เราใช้เงินอนาคตไปก่อนแล้วมาจ่ายทีหลังอย่างนั้นเลย 

7. เงินเหลือเท่ากับเงินออม

วิธีนี้จะยกตัวอย่างว่า สิ้นเดือนเรามียอดคงเหลือในบัญชีอยู่ 1,280 บาท ให้ย้ายเงินส่วนนี้ไปใส่บัญชีเงินออม อาจจะถอนออกเป็นเลขกลม ๆ เช่น 1,000 บาท ไปเก็บออมไว้  พอขึ้นเดือนใหม่ เงินเดือนเข้ามาอีก 15,000 บาท + ของเก่าคงค้าง 30 บาท รวมเป็น 15,030 บาทเพื่อใช้จ่ายในเดือนนั้น ๆ แล้วเราก็กลับไปใช้เทคนิคตั้งแต่ข้อที่ 1 ไล่ลงมาใหม่ ถือเป็นการบังคับตัวเองให้ใช้จ่ายด้วยวงเงินที่จำกัดเท่า ๆ กันในแต่ละเดือน และลดการใช้จ่ายเกินความจำเป็นออกไป 

 การออมเงินแม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่การฝึกวินัย และการวางแผน ถ้าทำบ่อยๆเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ไม่ยากอีกต่อไป  เผลอๆสิ้นปีมีเงินเก็บเป็นก้อน เอาไปต่อยอดลงทุนได้เพิ่มอีกด้วย ใครจะไปรู้ ...

อ้างอิง : ธนาคารออมสิน 

ภาพ : TNN ONLINE