อวดโฉม!!สุวรรณภูมิเฟส 2คืบหน้าเกือบ 100% จ่อเปิด ต.ค.65
วันนี้ (30 มิ.ย.63) นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ยังคงเดินหน้าโครงการพัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับการจราจรในอนาคต โดยในส่วนของโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะที่ 2 มีความคืบหน้าในการดำเนินงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) 88% ปัจจุบัน AOT ดำเนินงานโครงสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินงานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน งานภูมิทัศน์ และติดตั้งงานระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ไฟฟ้า เครื่องกล สุขาภิบาล และระบบสารสนเทศภายในอาคาร ซึ่งผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ทำให้ภาพรวมการทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operation Readiness and Airport Transfer : ORAT) สำหรับอาคาร SAT-1 ต้องเลื่อนออกไป โดยคาดว่าจะทำการทดสอบระบบการปฏิบัติงานต่างๆ ร่วมกันแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 เช่น ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ระบบบริหารลานจอดอากาศยาน ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม AOT คาดว่าเที่ยวบินและผู้โดยสารจะเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจนกลับมามีปริมาณการจราจรเป็นปกติ (ที่ระดับเดิมของปี 2562) ในเดือนตุลาคม 2565 ดังนั้น AOT อาจต้องพิจารณาการเปิดใช้อาคาร SAT-1 ให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารต่อไป
สำหรับ ความคืบหน้าโครงการพัฒนา ทดม.ขณะนี้การก่อสร้างอาคารบริการผู้โดยสาร หรือเรียกว่า Service Hall บริเวณลานจอดรถรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอาคารที่เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือ มีพื้นที่ใช้งานประมาณ 3,000 ตารางเมตร สำหรับให้ผู้โดยสารกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ได้ใช้เป็นพื้นที่จัดกระเป๋าเดินทางก่อนขึ้นเครื่องที่จะช่วยลดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนสิงหาคม 2563 รวมถึงโครงการก่อสร้างทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดง ระยะทาง 200 เมตร เชื่อมต่อจากโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ - รังสิต สถานีดอนเมืองเข้าสู่ภายใน ทดม.บริเวณอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น คาดว่าดำเนินการเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2563 ก่อนการเปิดให้บริการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ในปี 2564 นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร อาคาร 3 บริเวณอาคารผู้โดยสารเดิมที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นการคืนสภาพขีดความสามารถเดิมของ ทดม.ในการรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคนต่อปี โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จในปี 2567
ในส่วนของสนามบินภูมิภาคของ AOT อีก 4 แห่ง ได้แก่ ทชม. ทชร. ทภก.และ ทหญ.ยังคงเดินหน้าดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินตามแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และรักษามาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้สนามบินมีศักยภาพและสามารถรองรับความต้องการการเดินทางที่จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งการขนส่ง การท่องเที่ยว และธุรกิจการบริการของประเทศให้กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย
โดยในโอกาสวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 AOT จะครบรอบ 41 ปีการดำเนินงาน นายนิตินัย กล่าวว่า AOT ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการด้วยความสะอาดและปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดี ปลอดโรคของผู้ใช้บริการสนามบินควบคู่กับการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยเหลือสังคมผ่าน การส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับ AOT แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ที่การเดินทางทางอากาศยังคงชะลอตัวในอีก 1 – 2 ปีข้างหน้า
" AOT มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ พร้อมพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องและยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ AOT เติบโตและก้าวไปอย่างมั่นคง พร้อมกับการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน" นายนิตินัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทอท.เพิ่มมาตรการช่วยเหลือสายการบิน
- ทอท.แจง2เดือนไวรัสโควิด-19ระบาดหนัก ฉุดรายได้ลดฮวบ30%
- ทอท.เผยจนท.โคเรียนแอร์ติดโควิด-19 แต่ไม่ยอมบอก
- คลังจ่อหารือทอท.-การบินไทยแก้ผลกระทบ"โควิด-19"
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline