รีเซต

PTT โบรกฯ คาดกำไร Q2/67 ราว 3.1-3.4 หมื่นลบ. จากขาย LNG Terminal 2 หนุน

PTT โบรกฯ คาดกำไร Q2/67 ราว 3.1-3.4 หมื่นลบ. จากขาย LNG Terminal 2 หนุน
ทันหุ้น
8 สิงหาคม 2567 ( 13:27 )
44

#PTT #ทันหุ้น-โบรกเกอร์คาดการณ์งบไตรมาส 2/67 ของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้(9 ส.ค.) โดยประเมินว่าจะมีกำไรอยู่ในระดับกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงประมาณ 3.11-3.42 หมื่นล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อน โดยปัจจัยหนุนส่วนหนึ่งมาจากการขายเงินลงทุน LNG Terminal 2 ให้ EGAT สัดส่วน 50% รวมถึงบริษัทลูกส่วนใหญ่ผลประกอบการฟื้นตัว 

 

บล.กรุงศรี คาดว่า PTT จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/67 ที่ 34,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% YoY และเพิ่มขึ้น 18% QoQ เนื่องจากมีรายการพิเศษ จากกำไรจากการขายเงินลงทุน  LNG Terminal 2 ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือกฟผ.สัดส่วน 50% มูลค่า 4,500 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษ จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 27,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY แต่ลดลง 26% QoQ  ซึ่งกำไรปกติที่ลดลงมาก เพราะธุรกิจโรงแยกก๊าซ (GSP) กำไรลดลงมาก เพราะผลกระทบ single pool ย้อนหลังของงวดไตรมาส 1/67 ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกการฟื้นของฝั่งจัดหาฯ ที่ไม่มีผลกระทบคืนคืน shortfall 4,300 ล้านบาท เหมือนไตรมาส 1/67  และยังมีปัจจัยจากธุรกิจโรงกลั่นกำไรลดลงตามค่าการกลั่นที่กำลังผลิตใหม่ทั่วโลก ส่งให้ซัพพลายตึงตัวน้อยลง

 

ส่วนแนวโน้มกำไรปกติงวดไตรมาส 3/67 คาดว่าจะลดลง YoY เนื่องจากฐานที่สูง เพราะไม่มีกำไรสต็อกราว 1.1 หมื่นล้านบาท จากบริษัทลูก ที่ได้ประโยชน์ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากโอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเหมือนไตรมาส 3/66 และธุรกิจก๊าซถูกฉุดจากผลกระทบ  single pool  ขณะที่กำไรไตรมาส 3/67 หากเทียบกับไตรมาส 2/67 QoQ มองว่าจะฟื้น เพราะธุรกิจก๊าซฝั่ง GSP ไม่ต้องแบกผลกระทบย้อนหลังเหมือนไตรมาส 2/67 กลบปริมาณขายก๊าซ ภาพรวมที่ลดลง หลังออกจากไฮซีซั่น และการผลิตไฟฟ้าจากโรง Hydro เยอะขึ้น และธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P)  เข้าสู่ช่วงปิดซ่อม กลบฝั่ง โรงกลั่นและปิโตรเลียม (P&R) ที่ค่าการกลั่นฟื้นตัวจาก U.S. driving season และ supply ตึงตัวขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือหุ้น PTT ให้ราคาเป้าหมายที่ 38.50 บาท เพราะคาดว่ายังเผชิญ overhang i) การแบกรับผลกระทบ single pool ที่คาดหนักขึ้นใน ครึ่งปีหลัง ตามราคา LNG ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการปิดซ่อมนอกแผนของแหล่งผลิตใน U.S.และ Australia และฤดูหนาว (1H24 JKM LNG spot price ราว 10.3 $/mmbtu Vs. 3QTD 12.3 $/mmbtu) ii) ความเสี่ยงถูกเรียกคืนค่า shortfall อีก -4,700 ล้านบาท (เรารวมในประมาณการแล้ว) และแรงฉุดจากค่าใช้จ่ายด้อยค่าฯของบริษัทลูก (สุทธิมาที่ PTT) ราว -3,744 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง ส่งให้กำไรผันผวน และ iii) ความเสี่ยงจากการถูกขอเจรจาลดเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซฯใหม่ของลูกค้า IPP

 

**ปรับเพิ่มประมาณการกำไร 

 

ด้านบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) คาดว่า PTT จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 3.11 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% YoY และเพิ่มขึ้น 7% QoQ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY เพราะส่วนแบ่งกำไรจาก PTTEP เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่สูงขึ้นและปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก PTTGC, TOP และ IRPC เพราะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น  ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เพราะมีกำไรพิเศษประมาณ 4.5 พันล้านบาทจากการขายหุ้น 50% ใน LNG Receiving Terminal 2 ออกไปให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), ส่วนแบ่งกำไรจาก PTTEP จากราคาน้ำมันดิบดูไลสูงขึ้นและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก PTTGC เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกำไรพิเศษ (หลังหักภาษี) ประมาณ 2.8 พันล้านบาท จากการซื้อคืนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ 

 

ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ PTT ในปี 2567 ขึ้นอีก 6% เป็น 9.42 หมื่นล้านบาท เนื่องจากได้เพิ่มกำไรพิเศษ(หลังหักภาษี)ประมาณ 4.5 พันล้านบาท จากการขายหุ้น 50% ใน LNG Receiving Terminal 2 เข้ามาในประมาณการและได้ปรับเพิ่มประมาณการส่วนแบ่งกำไรจาก TOPในปีนี้ขึ้นอีก13% เป็น 1.68 หมื่นล้านบาท เพราะใส่กำไรพิเศษ 1.1 พันล้านบาทจากการซื้อคืนหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์120ล้านเหรียญฯ จากตลาดรองใน ครึ่งแรกปีนี้

 

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยเคจีไอ แนะนำถือหุ้น PTT ให้ราคาเป้าหมายที่ 35.00 บาท และได้ปรับเพิ่มสมมติฐานเงินปันผลในปีนี้เป็น 2.00 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไรดังกล่าว 

 

ด้านบล.อินโนเวสท์ เอกซ์  แนะนำซื้อหุ้น PTT ให้ราคาเป้าหมายที่ 45 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ 3.26 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% YoY และเพิ่มขึ้น 13% QoQ โดยได้แรงหนุนจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าไตรมาส 2/66 และไตรมาส 1/67 ค่อนข้างมาก และมีกำไรพิเศษจากตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของบริษัทร่วม 

 

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/67 คาดว่ากำไรจะอ่อนตัวลง QoQ เพราะกำไรจากธุรกิจ E&P จะลดลง ซึ่งคาดว่าการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนจะกดดันให้กำไรธุรกิจนี้อ่อนตัว อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อการผลิตของ GSP ซึ่งจะเป็นตัวฉุดรั้งกำไรของธุรกิจก๊าซ แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าจะได้รับการชดเชยบางส่วนจาก market GRM ที่สูงขึ้นของธุรกิจ P&R เนื่องจาก market GRM ฟื้นตัวขึ้นมา

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง