เจ้าอาวาส-อสม.ระดมข้าวสารอาหารแห้งช่วยผู้ป่วยโควิด หลัง ให้รักษาตัวที่บ้าน

เจ้าอาวาส-อสม.ระดมข้าวสารอาหารแห้งช่วยผู้ป่วยโควิด หลังมีการให้รักษาตัวที่บ้าน ด้าน สสจ.พะเยาเผย สธ.เตรียมประกาศ 1 มี.ค.ผลักดันให้เป็นโรคประจำถิ่น

วันที่ 28 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบัวหลี ขันทอง ประธาน อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อสม.และน.ส.แสงเดือน แสวงผล เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.เวียง ได้เข้าพบพระครูอภิวัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดพระนั่งดิน ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อรับมอบข้าวสารอาหารแห้งและเงินช่วยเหลือซึ่งจะนำไปมอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิดที่ขณะนี้ได้รักษาตัวอยู่ที่บ้านและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทั้งหมดเกือบ 50 ราย

โดย น.ส.แสงเดือน กล่าวว่า ขณะนี้เฉพาะในพื้นที่ของ ต.เวียงได้มีการให้ชาวบ้านซึ่งติดเชื้อโควิดแต่ไม่รุนแรงให้เข้ารับการรักษาภายในบ้านพักของตัวเอง ซึ่งเวลานี้พบว่าเกิดปัญหาในเรื่องของอาหารด้วยเพราะผู้ที่ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่สามารถจะออกมาซื้ออาหารได้เอง ทำให้อาหารการกินและความเป็นอยู่เริ่มลำบาก ทั้งนี้ทาง รพ.สต.เวียงจึงได้ปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ อสม.ต.เวียงเพื่อที่จะขอรับบริจาคจากหลายฝ่าย

ซึ่งครั้งนี้ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าอาวาสวัดพระนั่งดินเป็นอย่างดี ด้วยทางเจ้าอาวาสทราบเรื่องและรู้สึกเป็นห่วงอย่างมากจึงได้นำข้าวสารอาหารแห้ง ไข่ไก่ ที่มีชาวบ้านนำมาถวายได้แบ่งให้ทางผู้ที่ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ที่บ้านด้วยเช่นกัน ในส่วนของผู้ที่ติดเชื้อนั้นส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิดแล้วทำให้อาการไม่รุนแรงเหมือนแต่ก่อนและสามารถรักษาหายอย่างง่ายดายเช่นกัน ส่วนผู้ที่ติดเชื้อโดยไม่ได้รับวัดซีนก็ต้องถูกส่งตัวไปที่ รพ.เชียงคำเพื่อเข้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นพ.ศุภชัย บุญอำพันธ์ นพ.สสจ.พะเยา กล่าวเสริมว่า ในช่วงของวันที่ 1 ที่จะถึงนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขจะประกาศให้ผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่รุนแรงและได้รับวัคซีนมาแล้วนั้นจะให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้ส่วนของ จ.พะเยาเองในเวลานี้ยอดของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่อยู่ที่เพียง 64 รายเท่านั้นแต่ยอดใหม่นี้ส่วนหนึ่งมาจาก อ.แม่ใจ ที่พบยอดเพิ่มขึ้น ส่วนยอดสะสมในพื้นที่ อ.เชียงคำเวลานี้รวมอยู่ที่ 497 ราย โดยจะแบ่งเป็นผู้ที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านและรักษาตัวอยู่ที่ รพ.

ทั้งนี้ภายในคำสั่งของวันที่ 1 มี.ค.65 นี้ ผู้ที่ติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรงด้วยเพราะรับการฉีดวัคซีนมาแล้วนั้นก็จะให้รักษาตัวอยู่ที่บ้านโดยทาง รพ.ในพื้นที่จะส่งมอบยารักษาให้ทางเจ้าหน้าที่ อสม.เพื่อไปแจกจ่าย อีกทั้งผู้ที่คาดว่าสัมผัสเสี่ยงสูงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดหากไม่พบก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่หากพบผลเป็นบวกจะต้องข้ารับการรักษาทันที ด้านผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำก็เพียงตรวจวัดไข้เฝ้าดูอาการตัวเองเท่านั้นเช่นกัน