ผู้ต้องขัง 2.3 แสนเฮ พระราชอภัยโทษ "5ธันวา"
ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติต่อไป โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 4 ธันวาคม
สำหรับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2563 จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำจำนวนประมาณ 30,000 ราย จากเรือนจำทั่วประเทศ ตามมาตรา 6. นอกจากนี้ ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับสิทธิ เข้าหลักเกณฑ์ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาด ที่ควบคุมอยู่ ประมาณ รวม 247,557 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 344,161 ราย จากข้อมูลกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563
สำหรับนักโทษรายสำคัญที่จะได้รับการลดโทษตามสัดส่วนคือ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 24 เดือน เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา จะได้การลดโทษตามสัดส่วน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม นายสรยุทธก็ได้รับการลดโทษรอบแรกมาแล้ว ส่วนผู้ต้องขังกลุ่มนักการเมืองซึ่งเป็นที่รู้จัก ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากกระทำความผิดตามบัญชีแนบท้าย แต่จะได้รับการลดวันต้องโทษตามสัดส่วน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษ โดยนักโทษกลุ่มแกนนำการชุมนุมก่อความไม่สงบปิดล้อมบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต้องโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ได้รับการลดโทษ ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่รับโทษจากคดีรับจำนำข้าว ก็ได้รับการลดโทษตามสัดส่วนเช่นกัน