วิกฤตกรดในมหาสมุทร เสียงเตือนจากใต้ทะเลลึก เสี่ยงสูญเสียระบบนิเวศทางทะเล

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า มหาสมุทรของโลกกำลังเผชิญภาวะย่ำแย่กว่าที่เคยประเมินไว้ หลังมีหลักฐานใหม่ยืนยันว่า “ความเป็นกรดของมหาสมุทร” หรือ Ocean Acidification ได้ข้ามเส้นขีดจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม (planetary boundary) ไปแล้วตั้งแต่เมื่อราว 5 ปีก่อน นำไปสู่ความเสื่อมถอยของระบบนิเวศทางทะเลในระดับที่อาจไม่อาจย้อนคืนได้
ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า “ฝาแฝดผู้ชั่วร้ายของวิกฤตโลกร้อน” เกิดจากการที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศถูกดูดซับเข้าสู่มหาสมุทรในอัตราเร่ง และทำปฏิกิริยากับน้ำทะเลจนทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ลดลง ส่งผลให้สัตว์ทะเลโดยเฉพาะสัตว์ที่มีเปลือกแข็ง เช่น ปะการัง หอย และสิ่งมีชีวิตจิ๋วจำพวก “ผีเสื้อทะเล” (sea butterflies) ไม่สามารถสร้างหรือคงโครงสร้างแคลเซียมไว้ได้ ซึ่งทำให้พวกมันเปราะบาง อัตราการเจริญเติบโตและการรอดชีวิตลดลง
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์เคยระบุว่า 6 ใน 9 เส้นขีดจำกัดของระบบโลก (planetary boundaries) ได้ถูกละเมิดแล้ว เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวัฏจักรธาตุสำคัญ แต่ไม่รวม “ความเป็นกรดของมหาสมุทร” จนกระทั่งงานวิจัยล่าสุดโดยห้องทดลองทางทะเลพลีมัธ (PML) จากสหราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานด้านสมุทรศาสตร์ของสหรัฐฯ และมหาวิทยาลัยรัฐโอเรกอน ชี้ว่าเส้นแบ่งดังกล่าวถูกข้ามไปแล้วราวปี 2020
การศึกษานี้อ้างอิงจากข้อมูลย้อนหลังกว่า 150 ปี ทั้งจากการเจาะแกนน้ำแข็ง (ice core) การวิเคราะห์เคมีทางทะเล และแบบจำลองคอมพิวเตอร์ พบว่าระดับแคลเซียมคาร์บอเนตในทะเล ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเปลือกของสิ่งมีชีวิต ลดลงมากกว่า 20% จากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นเกณฑ์วิกฤตที่ถูกนิยามไว้
น่ากังวลยิ่งไปกว่านั้นคือ ยิ่งลงลึกใต้ผิวน้ำเท่าใด ระดับความเป็นกรดยิ่งรุนแรงขึ้น นักวิจัยพบว่า ในระดับความลึก 200 เมตร มีถึง 60% ของน่านน้ำโลกที่มีค่าความเป็นกรดเกินขีดจำกัด “ปลอดภัย” ที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจเป็นหายนะต่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก และระบบนิเวศสำคัญ เช่น แนวปะการังลึก ที่ทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอนุบาลของสัตว์ทะเลหลากชนิด ด้านศาสตราจารย์เฮเลน ฟินด์เลย์ จาก PML ระบุว่า “ชีวิตในทะเลส่วนใหญ่อยู่ใต้ผิวน้ำ การเปลี่ยนแปลงที่ระดับความลึกจึงหมายถึงผลกระทบที่ใหญ่หลวงกว่าที่คาดไว้มาก”
นักวิจัยย้ำว่า ทางออกระยะยาวมีเพียงหนึ่งเดียวคือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อย่างจริงจังและเร่งด่วน ขณะที่ในระยะสั้น มาตรการอนุรักษ์ควรให้ความสำคัญกับพื้นที่และชนิดพันธุ์ที่มีความเปราะบางที่สุด
ด้าน “เจสซี เทอร์เนอร์” ผู้อำนวยการพันธมิตรนานาชาติเพื่อต่อสู้กับความเป็นกรดของมหาสมุทร ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยครั้งนี้ กล่าวชัดเจนว่า “รายงานฉบับนี้เป็นเสียงเตือนที่ดังที่สุดว่า เรากำลังหมดเวลา และสิ่งที่เราทำ (หรือไม่ทำ) ตอนนี้ กำลังกำหนดอนาคตของเราแล้ว”เธอยังเตือนว่า พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหลายชนิด “สูญหายไปแล้ว” และรัฐบาลทั่วโลก “ไม่อาจมองข้ามปัญหานี้จากวาระนโยบายกระแสหลักได้อีกต่อไป”
แม้เรื่องโลกร้อนจะถูกพูดถึงในทุกเวที แต่ "ความเป็นกรดของมหาสมุทร" กลับเป็นภัยเงียบที่เดินหน้าอย่างรวดเร็วและลึกลงไปในทะเลโดยที่มนุษย์มองไม่เห็น นี่อาจเป็นภัยร้ายของวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังคุกคามรากฐานของห่วงโซ่อาหารและวิถีชีวิตของชุมชนชายฝั่งทั่วโลก การรับมือกับปัญหานี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่เราต้องเผชิญหน้าและอาศัยความร่วมมือระดับโลก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
