พ่อแม่พร้อมลูกสาวร่ำไห้ รับศพสองสามี-ภรรยา ถูกเจ้าของร้านทำผมแทงเสียชีวิต

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 สิงหาคม 65 นางระวิวรรณ พุ่มพฤกษ์ อายุ 66 ปี แม่ของนายวีระพงษ์ พุ่มพฤกษ์ อายุ 40 ปี (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยนายชูชาติ วิมูลรักชาติ อายุ 60 ปี พ่อของนางสาวริศรา วิมูลรักชาติ อายุ 41ปี (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองคนและญาติๆ ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อติดต่อขอรับศพนายวีระพงษ์ พุ่มพฤกษ์ อายุ 40ปีและนางสาวริศรา วิมูลรักชาติ อายุ 41ปี สองสามีภรรยาดาราตัวประกอบที่ถูกนายประสาท ร่างใหญ่ หรือเล็ก อายุ 51ปี เจ้าของร้านทำผมที่ร้านชื่อร้าน PIMMY HAIR SALON ซึ่งหน้าร้านเคเอฟซีภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสสาขาบางกะดี ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี แทงเสียชีวิตตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด้านนางระวิวรรณ พุ่มพฤกษ์ อายุ 66 ปี กล่าวว่าลุกชายเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยซึ่งเรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นและอยากถามคนแทงว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แต่การสูญเสียมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้มีเงินเป็น1ล้านก็ซื้อชีวิตลูกแม่กลับคืนมาไม่ได้ และเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากมันต้องตั้งใจมาทำแบบนี้แน่นอนและอยากให้คนก่อเหตุได้รับกรรมที่เขาก่อเหตุไว้ และในร้านเขาก็ไม่ใช่และแม่ก็จะไม่ทำอะไรเขาเวรกรรมมันมีจริง ส่วนหลานทั้งสองคนยังสับสนอยู่ต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่งแต่เขาจะอยู่กับพ่อกับแม่เขามากกว่า หลังจากนี้ก็จะนำศพลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุสลที่เชียงราย

ส่วนนายนายชูชาติ วิมูลรักชาติ อายุ60ปี พ่อของนางสาวริศรา วิมูลรักชาติ อายุ 41ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ตนเองยังไม่อยากพูดอะไรเพราะมันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุส่วนหลานสาวทั้งสองคนก็ยังอยู่ที่บ้านเขาเพราะบ้านเราอยู่ติดกันลูกสาวคนนี้เป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลทุกคนลูกสาวเคยพูดกับตนว่าถ้ามันคุยกันไม่ลงตัวก็จะไปที่สำนักงานใหญ่ของโลตัสเขาอาจจะโกรธตรงนี้จึงก่อเหตุขึ้น และจะนำศพลูกสาวไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเทียนถวาย อ.เมือง จ.ปทุมธานี

ด้านน้องปิงปอง อายุ 20 ปี ลูกสาวคนโตได้ให้สัมภาษณ์ว่าแม่ก็บ่นให้ฟังว่าแม่ไปตัดผมสั้นมาน่ะแต่มันสั้นเกินไปซึ่งหนูก็ไม่ชอบให้แม่ตัดผมอยู่แล้ว และรู้แค่ว่ามีปากเสียงกับเจ้าของร้านแต่ไม่รู้ว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้เจ้าของร้านก็ไล่ออกจากร้าน ซึ่งวันที่เกิดเรื่องหนูก็ไม่รู้ว่าแม่จะไปที่ร้านเพราะแม่โทรศัพท์มาบอกให้ดูบ้าน เพราะหนูจะซื้อบ้านให้แม่ดูเรื่องเอกสารขณะที่ตนเองขับรถจะเลี้ยวเข้าที่ทำงานย่านลาดพร้าวก็มีโทรศัพท์เข้ามาซึ่งตนเองก็ไม่ได้รับ และก็โทรมาอีกปลายสายไม่ใช่เสียงน้องเป็นเสียงของพนักงานแถวนั้นตามว่าเป็นอะไรกับน้องแพรตนก็บอกว่าเป็นพี่สาวและน้องก็พูดมาว่าปะป๋ากับแม่จ๋าโดนแทงตนเองถึงรีบขับรถมา และเขาก็บอกว่าแม่ไม่รอดแล้ว ตนไม่รู้เลยว่าแม่ไปร้านนี้บ่อยไหมปกติแม่ผมยาว แต่มาตัดประบ่าซึ่งแม่ก็โวยวายซึ่งทางร้านก็จะรับผิดชอบแต่แม่เขาไม่ยอมซึ่งพ่อกับแม่เป็นคนใจเย็นมากแต่ไม่รู้ว่าไปคุยกันยังไง และแม่ก็ได้ส่งรูปผมมาให้ดูด้วย