ระทึกชะตานกพิราบ ถ้าบินข้ามทวีปจากสหรัฐ ออสซี่ต้องฆ่าทิ้ง
ระทึกชะตานกพิราบ - ไนน์นิวส์ รายงานชะตากรรมลุ้นระทึกของนกพิราบแข่งที่เดิมเชื่อว่าน่าจะบินมาไกลจากรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา ระยะทางกว่า 15,000 กิโลเมตร มายังเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ซึ่งจะต้องถูกฆ่าทิ้ง ตามมาตรการป้องกันโรค แต่โชคดีที่ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันชี้ว่า พิราบตัวนี้น่าจะเป็นนกในออสเตรเลีย และแท็กที่ติดอยู่ที่ขามันเป็นของปลอม
เควิน เชลลิ-เบิร์ด พบนกพิราบตัวหนึ่งท่าทางอ่อนแรงในสวนหลังบ้านซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 48 กิโลเมตร เมื่อวันบ็อกซิ่งเดย์ (26 ธ.ค.) และตั้งชื่อว่า “โจ” ตามชื่อของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน
แท็กสายรัดสีฟ้าที่ขานกพิราบระบุว่าต้นทางมาจากสหพันธ์นกพิราบแข่งอเมริกัน ขึ้นทะเบียนที่เมืองมอนต์โกเมอรี รัฐแอละแบมา จึงทำให้คนสันนิษฐานตอนแรกว่าพิราบตัวนี้เข้าแข่งขันในรัฐแอละแบมาเมื่อวันที่ 29 ต.ค. แต่ไม่เคยเข้าเส้นชัยเพราะบินผิดทางมากว่าหมื่นกิโลเมตรและบินลงมาที่สวนของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนกพอดี
อย่างไรก็ตาม ดีออน โรเบิร์ตส์ โฆษกสหพันธ์พิราบแข่งอเมริกัน ให้สัมภาษณ์ไนน์นิวส์ สื่อท้องถิ่นออสเตรเลีย ว่าจากการตรวจสอบเชื่อว่าน่าจะเป็นสายรัดของปลอมและนกตัวนี้น่าจะมีถิ่นอาศัยในออสเตรเลีย ไม่ใช่สหรัฐ เนื่องจากได้รับการยืนยันจากเจ้าของนกพิราบที่ติดสายรัดข้อขารหัส AU 2020 ARPU 5622 แล้วว่าไม่ใช่นกที่เห็นในภาพ
หากเป็นจริง ก็จะทำให้พิราบตัวนี้มีชีวิตต่อไปเพราะถ้าโจเป็นนกพิราบท้องถิ่นในออสเตรเลียก็ไม่ต้องถูกการุณยฆาต
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กักกันออสเตรเลียมีแผนที่จะทำการุณยฆาตเพราะเกรงว่าอาจจะนำเชื้อโรคมาจากสหรัฐฯ และมาแพร่เชื้อในออสเตรเลีย
ขณะที่เจ้าหน้าที่กักกันติดต่อเชลลิ-เบิร์ดเมื่อวานนี้เพื่อขอให้จับพิราบตัวนี้มาตรวจสอบ
ส่วนเชลลี-เบิร์ด กล่าวติดตลกว่าอาจจะต้องเรียกพิราบใหม่ว่า “โดนัลด์” จะได้ขอให้ประธานาธิบดีอภัยโทษหรือได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต เมื่อ 12 เดือนก่อนเป็นนรกสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ เราได้รับข่าวดีและต้องการให้ยุติเสียที
ต่อมา เอพีรายงานว่า กระทรวงเกษตรออสเตรเลีย แถลงว่า ผลการสอบสวนสรุปว่า มีความเป็นไปได้สูงที่พิราบโจเป็นนกออสเตรเลีย และไม่มีความเสี่ยงด้านชีวความมั่นคง ดังนั้นทางกระทรวงจะไม่ดำเนินการใดๆ ต่อ
แต่นักการเมืองรัฐวิคตอเรียหลายคนเรียกร้องให้ระงับการฆ่าทิ้งนก รวมทั้ง มาร์ติน โฟลีย์ รมว.สาธารณสุขที่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กักกันเครือจักรภพมีความเมตตาการุณต่อโจ
ส่วนแอนดี เมดดิค ส.ส.พรรคแอนิมอล จัสติส ขอให้รัฐบาลกลางยกโทษให้โจและหวังว่าโจจะถูกกักตัวและอาศัยในออสเตรเลียต่อไปซึ่งคำร้องขอนี้จะทำให้โจพ้นโทษประหาร แม้ทราบดีว่ารัฐบาลกลางมีเรื่องใหญ่ให้จัดการมากกว่าโทษประหารของพิราบก็ตาม