รีเซต

กทม.ประกาศแล้ว คุมเข้มสถานที่ 4 ประเภท ตามมาตรการเฝ้าระวัง โควิด-19

กทม.ประกาศแล้ว คุมเข้มสถานที่ 4 ประเภท ตามมาตรการเฝ้าระวัง โควิด-19
มติชน
21 ธันวาคม 2563 ( 18:01 )
79

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 ระบุว่า

 

ตามที่ได้มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COND-19) ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สมควรกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดในกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จึงกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ดังต่อไปนี้

 

1. ให้สถานที่ดังต่อไปนี้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคแนบท้ายประกาศนี้

– ตลาด ตลาดน้ำ และตลาตนัด

– สวนสาธารณะ

– วัด มัสยิด หรือสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนา

– สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอกะ

 

2. ให้เจ้าของ ผู้จัดการสถานที่ หรือผู้จัดให้มีกิจกรรมใด ๆ ทางธุรกิจการคมนาคม มหรสพ สนามกีฬา ที่สาธารณะ หรือแหล่งอื่น ๆ ซึ่งมีการรวมกลุ่ม หรือร่วมกิจกรรมลักษณะที่เสี่ยงต่อการใกล้ชิด สัมผัส และแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคแก่ผู้ร่วมกิจกรรมนั้น ๆ ดังต่อไปนี้

– บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการปวยในระบบทางเดินหายใจ

– ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า

– อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด

– จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

– จัดให้มีการเช็ดทำควมสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรม รวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย

– ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด

 

3. การจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่มีการชุมนุมคนในพื้นที่ตั้งแต่ 300 คนขึ้นไป ต้องยื่นแผนการจัดงาน และมาตรการควบคุมโรคต่อสำนักอนามัย กรุงเทหมหานคร ก่อนจัดงาน

 

ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกเกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 และข้อ 2 จะถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว

 

กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจากที่พักอาศัย เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหาย อย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2538

 

 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง