สงครามรัสเซีย-ยูเครน เมื่อไหร่จะถึงจุดจบ เจรจาไม่คืบ-รบกันหนักขึ้น

สิ้นสุดไปแล้วกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน รอบ 2 ที่มีตุรกีเป็นตัวกลางของการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย
โลกต่างก็เฝ้าหวังว่า สงครามยืดเยื้อนานกว่า 3 ปี จะได้มีทางออกเสียที แต่ดูเหมือน แสงสว่างจะยังไม่เกิดที่ปลายอุโมงค์
เจรจาไม่คืบ-หยุดยิงไร้วี่แวว
ถึง 2 ฝ่ายจะหันมาเจรจา แต่คืบหน้าน้อยมาก แม้ตุรกียืนกรานว่า ก็ไม่ได้จบทางลบนัก มีด้านบวกบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นด้านมนุษยธรรม ซึ่งตกลงร่วมกันจะแลกเปลี่ยนเชลยศึก และส่งคืนศพทหารจากทั้ง 2 ฝั่ง รวมทั้งหมดราว 12,000 นาย
ส่วนข้อเสนอหยุดยิง ฝั่งยูเครนเสนอหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข 30 วัน แต่ทางรัสเซียเสนอหยุดยิงเพียง 2-3 วันในบางพื้นที่ ตามแนวพรมแดน พร้อมมอบบันทึกความเข้าใจให้ฝ่ายยูเครนไปพิจารณาหลังการเจรจา ซึ่งระบุถึงมาตรการที่รัสเซียเสนอเพื่อสันติภาพในระยะยาวและการหยุดยิงอย่างครอบคลุม ก่อนนัดเจรจากันอีกรอบภายในสิ้นเดือนนี้
สู้รบยังไปต่อ แม้จะเจรจาสันติภาพ
เจรจาไม่คืบ แต่การสู้รบเข้าสู่ขั้นต่อไปแล้ว เพราะก่อนเจรจาสันติภาพ 1 วัน ยูเครนเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ ภายใต้รหัสที่ชื่อว่า “Spiderweb” หรือ ปฏิบัติการใยแมงมุม
ภายใต้ปฏิบัติการนี้ ยูเครนทำลายเครื่องบินทั้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียไปมากกว่า 40 ลำ ในเหตุโจมตีสนามบินของฐานทัพใน 2 ภูมิภาค โดยวางแผนมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง และใช้โดรนโจมตีทั้งหมด 117 ลำ พร้อมอ้างว่า การโจมตีนี้ ทำให้รัสเซียสูญเสีย 2.3 แสนล้านบาท
บทความจากสำนักข่าว Al Jazeera และ BBC เผยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางส่วน มองว่า การโจมตีนี้ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการโจมตีต่อเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง อย่าง เครื่องบินทิ้งระเบิด ที่รัสเซียใช้โจมตีเมืองต่าง ๆ ในยูเครน, ทำลายภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งของรัสเซีย, สะท้อนถึงประสิทธิภาพของยูเครนในการโจมตี และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความสามารถในการโจมตีของรัสเซียอนาคต พร้อมส่งสัญญาณย้ำว่า “ยูเครนจะไม่มีวันยอมแพ้”
นักวิเคราะห์มองว่า การที่ยูเครนโจมตีรัสเซีย หนึ่งวันก่อนการเจรจา แม้จะไม่ส่งผลทางด้านเหตุผลหลักที่อยู่ในการเจรจาต่อรอง แต่ก็ทำให้ยูเครนดูแข็งแกร่งบนโต๊ะเจรจา
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า รัสเซียอาจตอบโต้กลับด้วยความรุนแรง โดยใช้โดรน และขีปนาวุธมากขึ้น ส่อให้เกิดสงครามยืดเยื้อเพิ่มขึ้นไปอีก
สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยุติลงได้อย่างไร ?
เว็บไซต์ The New Yorker วิเคราะห์ว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนจะไม่จบลงง่าย ๆ เพียงแค่การเจรจาไม่กี่ครั้ง แต่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเชิงลึก และความร่วมระหว่างประเทศ
แม้หนทางสันติภาพ 2 ฝ่ายจะยาวไกล แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า สงครามจะยุติลงได้ หากเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ เกิดขึ้น
1.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบทางทหาร เพราะถ้าหากฝ่ายใดสูญเสียความเชื่อมั่นในชัยชนะ หรือเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ อาจบีบให้หันมาเจรจาสันติภาพจริงจังขึ้นอีกครั้ง
2.ยูเครนต้องได้หลักประกันความมั่นคง ยูเครนต้องการคำมั่นสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายที่ชัดเจน โดยเฉพาะจากชาติตะวันตก ว่าจะได้รับการปกป้องในอนาคต หากถูกโจมตีจากทางรัสเซีย ซึ่งหากไม่มีการรับประกันความปลอดภัยนี้ ยูเครนจะตกลงทำข้อตกลงสันติภาพใดได้ยาก
3.เกิดการเปลี่ยนผู้นำ หรือ กระแสสังคมหันไปทางอื่น เช่น ปูตินสูญเสียอำนาจ, เซเลนสกี ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภายในประเทศ และชาวรัสเซียต่อต้านสงครามมากขึ้น ก็อาจผลักดันให้ 2 ฝ่ายหันมาเจรจาได้
4.บทบาทที่ชัดเจนของสหรัฐฯ และยุโรป ถ้าอเมริกาและยุโรปรวมพลังกันเสนอแผนสันติภาพที่จริงจัง มีแรงจูงใจชัดเจน อาจทำให้รัสเซียและยูเครนยอมเจรจาจริงจังได้
5.ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมองว่า “ควรพอ” ได้แล้ว สงครามนี้ จะจบลงได้อีกทางหนึ่ง เมื่่อทั้งทางรัสเซีย และยูเครนต่างเห็นพ้องกันว่า ถึงเวลาต้องยุติเสียที เพราะสู้ไปก็มีแต่จะสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย และทำให้หันมาเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งกันมากขึ้นในที่สุด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.newyorker.com/news/q-and-a/what-could-end-the-war-in-ukraine
https://www.reuters.com/world/europe/russia-ukraine-talk-about-peace-are-still-far-apart-2025-06-02/
https://www.bbc.com/news/articles/cq69qnvj6nlo
https://www.aljazeera.com/news/2025/6/2/how-will-ukraines-attack-on-russian-bombers-affect-the-war
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
