รีเซต

TFGชี้ราคาหมู-มาร์จิ้นเด้ง ออเดอร์ต่างแดนดีต่อเนื่อง

TFGชี้ราคาหมู-มาร์จิ้นเด้ง ออเดอร์ต่างแดนดีต่อเนื่อง
ทันหุ้น
5 กรกฎาคม 2567 ( 12:26 )
21

#TFG #ทันหุ้น – TFG รับอานิสงส์ราคาเนื้อหมูในเวียดนามเร่งตัวสูงขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค AFS ยังไม่คลี่คลาย ปลื้มคำสั่งซื้อจากต่างประเทศทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์งวดไตรมาส 3/2567 มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องถึงต้นไตรมาส 4/2567  ด้านยอดขายธุรกิจค้าปลีกใกล้แตะจุดคุ้มทุน สะท้อนความสำเร็จของการเพิ่มประเภทสินค้าในแต่ละสาขาควบคู่ขยายสาขาตามแผน

 

นายเพชร  นันทวิสัย  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG กล่าวถึงสถานการณ์ราคาเนื้อหมูในไทยว่ามีแนวโน้มทรงตัวสูง สอดคล้องกับราคาเนื้อหมูในตลาดจีนที่เริ่มทรงตัว และทยอยปรับตัวขึ้นได้ หลังปริมาณการเลี้ยงหมูเป็น (Demand) ภายในประเทศปรับลดลงสอดคล้องกับความต้องการบริโภค (Supply) ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์
แอฟริกา
ใน
สุกร หรือ AFS ในประเทศเวียดนาม หนุนให้ราคาเนื้อหมูในประเทศเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้ง 2 สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยให้ราคาเนื้อหมูในประเทศไทยมีแนวโน้มทรงตัวสูงได้อย่างต่อเนื่อง

 

“ราคาหมูในไทยก็น่าจะทรงตัวสูงได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ปรับตัวกลับลงไปอีก แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ของหมูเถื่อนอย่างใกล้ชิด ส่วนราคาหมูในเวียดนามก็จะส่งผลดีกับกลุ่มบริษัทโดยตรง เพราะได้ขยายกำลังการผลิตไว้ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก็น่าจะเป็นปัจจัยหนุน GPM ของบริษัทได้ระดับหนึ่ง”

 

ทยอยปิดดีลคำสั่งซื้อ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2567 กลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างทยอยปิดดีลคำสั่งซื้อ (Order) จากต่างประเทศทั้งจากทวีปยุโรป, ประเทศญี่ปุ่น, จีน รวมถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2567 (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) รวมถึงมีโอกาสขยายตัวเนื่องถึงต้นไตรมาส 4/2567 ได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

ขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทยังสามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทภายในประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างไฮเปอร์มาร์เก็ต (Hypermarket), ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Supercenter) รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นขยายฐานกลุ่มผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จพร้อมปรุงสุก ควบคู่ผลิตภัณฑ์หลักอย่างชิ้นส่วนไก่แช่แข็ง ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอื่นๆ อาทิ เท้าไก่ และเครื่องในยังสามารถขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ประเทศจีนได้อย่างต่อเนื่อง

 

“ทวีปยุโรปยังคงมีความต้องการชิ้นส่วนอกไก่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ สำหรับตลาดประเทศญี่ปุ่นบริษัทสามารถขยายช่องทางจัดจำหน่าย ด้วยการเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มเนื้อสัตว์ปรุงรสเสียบไม้พร้อมปรุงซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าเนื้อน่องสะโพกแช่แข็ง ยอดขายจึงเติบโตได้ดีทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ส่วนจีนนั้นชิ้นส่วนไก่ยังมีความต้องการสูงมาก และบริษัทยังสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่น่าพึงพอใจ”

 

ต้นทุนทรงตัวต่ำ

สำหรับต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์ยังคงทรงตัวอ่อนค่า โดยเฉพาะราคาถั่วเหลือง – กากถั่วเหลืองที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอีก แม้ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในไทยเริ่มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุน และสต๊อกอาหารสัตว์ทั้งในไทย – เวียดนามได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ให้ทรงตัวในระดับสูงได้ต่อเนื่อง

 

“บริษัทมีฟาร์มทั้งในไทย และเวียดนามซึ่งสามารถสต๊อกอาหารได้ถึงไตรมาส 4/2567 จึงจะได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์ที่ทรงตัวต่ำได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปี 2567 นี้ รวมถึงยังจะได้อานิสงส์จากการประหยัดต่อขนาดได้อีกด้วย”

 

ต่อยอดไทยฟู้ดส์ เฟรซ

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมุ่งเติบโตรายได้ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” อย่างต่อเนื่อง ทั้งเดินหน้าขยายสาขาให้ได้ 450 สาขา ณ สิ้นปี 2567 ควบคู่การขยายโครงข่ายเกษตรกร – พันธมิตรทางการค้าเพิ่มประเภทสินค้าเข้ามาจำหน่ายภายในร้านให้ครอบคลุม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้สามารถจัดหาวัตถุดิบในการปรุงอาหารให้ครบ-จบในร้านเดียว จึงคาดว่า ณ สิ้นปี 2567 ยอดขายต่อสาขาต่อวันจะเร่งตัวแตะจุดคุ้มทุนที่ราว 1.3 -1.5 แสนบาทต่อวันต่อสาขาได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

เบื้องต้นบริษัทคาดว่ายอดขายทั้งปี 2567 จะเติบโตได้ราว 10% เทียบกับที่ทำได้ราว 5.58 หมื่นล้านบาทเมื่อปี 2566 รวมถึงสามารถพลิกทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง จึงเตรียมพิจารณานโยบายการจ่ายเงินปันผล โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่สามารถจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต

 

คาดปันผล 5%

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) คาดกำไรปกติ (GPM) ของ TFG จะยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/2557  ต่อเนื่องถึงไตรมาส 3/2567 จากราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาหมู, กลยุทธ์ความสำเร็จของบริษัทในการสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นของตนเอง ถือเป็นแรงผลักดันในการเติบโตในระยะกลางและระยะยาวผ่านราคาขายและอัตรากำไรที่สูงขึ้น

 

เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2567 ที่ 1.99 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 813 ล้านบาท ในปี 2566 พร้อมคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ราว 5% และกำไรสุทธิยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น 11% YoY แตะ 2.21 พันล้านบาท ในปี 2568 พร้อมคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ราว 6.3% จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.84 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง