2ผัวเมียร้อง! เจ้าหน้าที่ ร.พ.จับ swab ขณะเข้าผาตัดขา จนดวงตาติดเชื้อ สุดท้ายต้องควักทิ้ง
2ผัวเมียร้อง! เจ้าหน้าที่ ร.พ.จับ swab ขณะเข้าผาตัดขา จนดวงตาติดเชื้อ สุดท้ายต้องควักทิ้ง หวั่นลามไปอีกข้าง สามีเล่าหลังเห็นน้ำขุ่นไหลออกจากจมูก
วันที่ 10 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ว่ามีหญิงวัย 60 ปี เข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.แห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร จากเกิดอุบัติเหตุหกล้มจนกระดูกขาด้านซ้ายหัก และเจ้าหน้าที่ ร.พ.ได้ทำการสวอบเพื่อตรจหาเชื้อโควิด แต่ผลกระทบทำให้ดวงตาติดเชื้ออย่างรุนแรง จนต้องเสียดวงตาข้างซ้ายไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของ นายปาณชัย เย็นมั่น อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป และ นางสุนันทา เย็นมั่น อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา ซึ่ง นางสุนันทา เป็นผู้ป่วยในกรณีดังกล่าว จากการสอบถามและดูสภาพผู้ป่วยรายนี้พบว่า การเคลื่อนไหวต้องใช้เหล็กค้ำยัน 4 ขา พยุงตัวในเวลาเดิน และที่ขาด้านซ้ายมีร่องรอยการผ่าตัด บริเวณใบหน้าโหนกแก้มยุบทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากไม่มีโครงกระดูกรองรับ ผิวหนังหน้ามีแผลเป็น ซึ่งทราบภายหลังว่าเกิดจากการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกเมื่อหลายปีก่อน
ส่วนบริเวณดวงตาด้านซ้ายมีสภาพบอดสนิทเนื่องจากแพทย์แจ้งว่าเกิดอาการติดเชื้อรุนแรง จึงจำเป็นต้องนำเอาดวงตาข้างดังกล่าวออก ซึ่งเกรงว่าหากปล่อยไว้จะลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง ทั้งนี้สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดวงตาด้านซ้ายของ นางสุนันทา บอดนั้น สองสามีภรรยายืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าเกิดจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงที่เข้าผ่าตัดขาที่หักตามแพทย์นัดที่ ร.พ.อย่างแน่นอน เพราะก่อนเข้ารักษาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิดก่อน โดยการใช้อุปกรณ์ตรวจแหย่เข้าไปในรูจมูก
เนื่องจากก่อนหน้านี้ นางสุนันทา ได้เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกจนต้องผ่าตัดนำเอาโครงกระดูกบริเวณโหนกแก้มออก คาดว่าอุปกรณ์การตรวจที่แหย่เข้าไปในรูจมูกของผู้ป่วยนั้นอาจจะเข้าไปกระทบกระเทือนกับระบบประสาทตา จนทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบติดเชื้อ จนกระทั่งแพทย์ต้องนำเอาดวงตาด้านซ้ายออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง โดยสองสามีภรรยา ได้ติงว่า เจ้าหน้าที่ ร.พ.น่าจะหาวิธีหลีกเลี่ยงในการตรวจด้วยวิธีนี้ เพราะ นางสุนันทา เคยเป็นผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาผ่าตัดโครงสร้างของโพรงจมูกมาแล้ว เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งผิวหนังบริเวณใบหน้าจนเชื้อกินลึกไปถึงในโพรงจมูก
นายปาณชัย กล่าวว่า หลังจากสวอบเสร็จก็เตรียมรับประทานอาหารกลางวัน ขณะนั้นตนสังเกตเห็นมีน้ำขุ่นๆ ไหลออกมาจากทางจมูกของภรรยา ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำมูก จนเมื่อภรรยาผ่าตัดขาเสร็จจึงมีอาการเจ็บปวดบริเวณดวงตา และตนสังเกตเห็นในดวงตามีจุดสีขุ่นๆ แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าอาจจะเป็นเพราะแพ้ยา หรือเป็นต้อ ตนจึงลดขนาดยาที่แพทย์ให้มาแต่ก็ไม่เป็นผล จนถึงวันแพทย์นัดอีกครั้งตนได้ขอร้องให้แพทย์พาภรรยาไปตรวจหาสาเหตุในห้องตรวจสายตาอีกครั้ง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ป่วยใส่แมสก์ และสวมแว่นตาดำตลอดเวลา เมื่อมาพบแพทย์เปิดออกมาตนตกใจมาก เพราะพบว่ามีน้ำสีขุ่นไหลออกมาจากดวงตา ซึ่งคล้ายกับน้ำที่ไหลออกมาจากรูจมูกของภรรยาในวันนั้น
ซึ่งแพทย์แจ้งว่าเป็นหนองเกิดการติดเชื้อรุนแรง จนดวงตานั้นเน่าไปแล้ว ต้องควักทิ้งอย่างเดียว ใจจริงตนไม่อยากให้เอาออก แต่หากไม่เอาออกก็อาจจะติดเชื้อลุกลามไปยังดวงตาอีกข้างได้ ตนยืนยันแน่นอนว่าเกิดจากการสวอปของเจ้าหน้าที่ ร.พ.อย่างแน่นอน เพราะเข้ารับสวอบ ช่วงแรกๆ ตนก็เห็นน้ำสีขุ่นๆ ไหลออกมาจากทางจมูกแล้ว ตนอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ ร.พ.ที่ทำการตรวจสวอบ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวออกมารับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาในกรณีที่เกิดขึ้นด้วย
ขณะที่ นางสุนันทา กล่าวว่า ดวงตาของตนติดเชื้อในช่วงที่นอนพักรักษาตัวอยู่ ร.พ. สังเกตเห็นว่ามีน้ำหนองออกมาจากจมูกและดวงตา ซึ่งแพทย์แจ้งว่าเกิดจากการติดเชื้ออย่างรุนแรงจึงได้ควักดวงตาข้างซ้ายออก ตนยืนยันว่าเกิดจากการแหย่จมูกตรวจหาเชื้อโควิดอย่างแน่นอน และในวันที่นำดวงตาออกแพทย์ก็ให้นอนพักฟื้นอยู่ที่ ร.พ.เพียง 2 วัน จากนั้นก็ให้ตนกลับมาพักฟื้นที่บ้าน สิ่งที่ได้มาจาก ร.พ.คือสำลี 1 ห่อ ยาหยอดตา และยาป้ายตาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ได้มีกลุ่ม อสม.ของชุมชนผาสุข ต.คลองแม่ลาย เข้ามาตรวจเยี่ยมสอบถามอาการ และสาเหตุความเป็นมาที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น พร้อมทำความสะอาดแผลที่เกิดขึ้นจากการเอาดวงตาออก โดยแนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดบาดแผลบริเวณเบ้าดวงตาที่ยังมีอาการอักเสบอยู่อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ