AI ตรวจจับเสียง “ลูกนกแสก” ช่วยนับจำนวน เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์นกในอังกฤษ

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์นกแสก (Barn Owl) ในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ด้วยการใช้เป็นเครื่องมือช่วยนับจำนวนลูกนกจากเสียงร้อง ลดการรบกวนรังนกจากวิธีการนับลูกนกแบบเดิม เช่น การเข้าไปติดตั้งกล้องวิดีโอ หรือติดห่วงขาให้กับพวกมัน

ปัญญาประดิษฐ์ตรวจจับเสียงลูกนกแสก

โมเดลปัญญาประดิษฐ์นี้ พัฒนาโดยนักศึกษาปริญญาเอกของ มหาวิทยาลัยบอร์นมัธ (Bournemouth University) ประเทศอังกฤษ ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์เสียงร้องที่คล้ายเสียงขู่ของลูกนกแสก และนับจำนวนลูกนก เพื่อช่วยให้นักอนุรักษ์ได้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับประชากรนกแสกในท้องที่

เหตุผลในการพัฒนา AI นับเสียงลูกนก

ทีมวิจัยกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า นกแสกเป็นสัตว์ที่ติดตามได้ยาก เพราะมักจะไม่ค่อยเห็นพบพวกมันได้ง่ายนัก และสิ่งสำคัญในการติดตามเพื่อเก็บข้อมูลก็คือ จะต้องไม่ไปรบกวนวิถีชีวิตของนก ดังนั้นการใช้เครื่องบันทึกเสียงและ AI ในการนับจำนวนนกจึงมีข้อดี เนื่องจากไม่จำเป็นต้องวางเครื่องบันทึกเสียงไว้ในรังก็สามารถเก็บข้อมูลได้ เพราะเสียงของพวกมันดังอยู่แล้ว

ข้อดีของการใช้ AI นับเสียงลูกนก

นักวิจัยระบุว่า วิธีการนี้ ยังช่วยลดความเครียดให้กับนกแสก และอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูลจากรังตามธรรมชาติที่เข้าถึงได้ยาก ซึ่งแตกต่างจากรังที่ทำขึ้นเอง (nest boxes) ที่เป็นแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

โดยนักวิจัยจะนำไฟล์เสียงมาประมวลผลและวิเคราะห์ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หูมนุษย์ไม่สามารถแยกแยะได้ จากการดึงความถี่ทั้งหมดออกมา และแปลงเป็นเหมือนบาร์โค้ด ซึ่งแต่ละอันจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย และความแตกต่างเหล่านั้นคือสิ่งที่โมเดลสามารถตรวจจับได้

แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เทคโนโลยีนี้ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าพึงพอใจ โดยสามารถระบุจำนวนลูกนกแสกได้สามตัวจากไฟล์เสียงที่บันทึกไว้

ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการติดตามความสำเร็จในการขยายพันธุ์ของนกแสก ซึ่งมีอัตราความสำเร็จที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีและในแต่ละพื้นที่ 

นอกจากนี้โมเดล AI ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกนก โดยเฉพาะเสียงขู่ของพวกมัน ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแย่งอาหารหรือระดับความหิวโหย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำความเข้าใจผลลัพธ์ของการขยายพันธุ์ต่อไป