“ลมหนาว” สกัดพายุ “รากาซา” ไม่เคลื่อนเข้าไทย

นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ช่วงวันที่ 24-30 ก.ย.68 ฝนที่ตกในระยะนี้ ยังมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ยังสวิงขึ้นลงอยู่บ้าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมขังในชุมชนเมือง และประชาชนที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังต้องระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น 

ส่วนภาคใต้อาจมีฝนน้อยกว่าภาคอื่นๆ เมื่อลิ่มความกดอากาศสูงแผ่ขึ้นมาสูง และดันให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้น ระยะนี้ยังมีการก่อตัวของพายุถี่ขึ้น ติดตามเป็นระยะๆ ช่วงต้นเดือนตุลาคม (1-3 ต.ค.) ฝนบริเวณประเทศไทยจะเริ่มลดลงบ้าง 

ส่วนพายุไต้ฝุ่น “รากาซา(RAGASA)” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน เช้าวันนี้ (24 ก.ย.) กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย เข้าใกล้เกาะฮ่องกง จากนั้นจะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีน ผ่านเกาะไหหลำ ลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนที่ขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 25 – 26 ก.ย. พายุนี้อาจอ่อนกำลังลงรวดเร็วเนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่งลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ในช่วงที่ใกล้ขึ้นฝั่ง พายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่อิทธิพลของพายุ "รากาซา" จะทำให้ร่องมรสุมและมรสุมที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น อาจทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น และติดตามประกาศฯจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป